xs
xsm
sm
md
lg

“สรรพสามิต” ยันโครงสร้างภาษีเหล้าเบียร์ใหม่ไม่กระทบคอทองแดง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
“บิ๊กสรรพสามิต” ยันโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ไม่กระทบภาระประชาชน แจงแชร์ข้อมูลราคาสุรา เบียร์ ไวน์ใหม่ ระบุของจริงไม่เก็บเต็มเพดานแน่นอน

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงกรณีมีการแชร์ข้อมูลการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่ส่งผลให้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทั้งสุรา เบียร์ และไวน์ ปรับอัตราภาษีตามปริมาณเพิ่มขึ้นว่า อัตราดังกล่าวเป็นการคำนวณจากเพดานจัดเก็บภาษีสูงสุด แต่การจัดเก็บภาษีจริงจะไม่สูงตามเพดานนั้น ส่วนจะเก็บเท่าไหร่จะต้องกำหนดอีกครั้ง แต่จะต้องไม่ทำให้จำนวนค่าภาษีสูงกว่าของเดิม โดยยืนยันว่าจะดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาระผู้ประกอบการ และประชาชน

ทั้งนี้ ร่างประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิตที่จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้ ที่เป็นการรวบรวมกฎหมายสรรพสามิต 7 ฉบับมาให้เหลือฉบับเดียว และเปลี่ยนการจัดเก็บภาษีจากราคาหน้าโรงงานมาเป็นจัดเก็บจากราคาปลีก โดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพื่อให้เป็นราคาเดียว ทำให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้เสียภาษี โดยกรมสรรพสามิตจะมีเวลาผ่อนผันให้กับผู้เสียภาษีเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อพิจารณาปรับลดอัตราภาษีของสินค้า เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ส่งผลให้ฐานภาษีสูงขึ้น จึงต้องปรับลดอัตราภาษีลง เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภค

“พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่จะทำให้การเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการภายใน และนอกประเทศมากขึ้น ซึ่งจะทำให้การเก็บภาษีของกรมเพิ่มขึ้น แต่ก็จะมีการพิจารณาลดอัตราภาษีหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ เพื่อไม่ให้ภาระภาษีของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น และผลักภาระไปให้ผู้บริโภคตามนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่เห็นชอบให้ดำเนินการออกกฎหมายครั้งนี้” นายสมชาย กล่าว

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า กรมสรรพสามิตได้ปรับวิธีการจัดเก็บภาษีใหม่จากราคาขายส่งหน้าโรงงาน เปลี่ยนมาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ ทั้งนี้ คาดว่ามีผลบังคับใช้ 180 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งทางกรมสรรพาสามิตต้องเร่งดำเนินการทำกฎหมายลูกประกอบประมาณ 80 ฉบับ โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดพิกัด

โดยโครงสร้างภาษีใหม่ เบียร์และไวน์ จะมีการปรับอัตราภาษีตามปริมาณจะปรับเพิ่มขึ้นจาก 300 และ 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท เพิ่มขึ้น 0.5 เท่า และปรับอัตราตามมูลค่าลดลงจาก 60 เปอร์เซ็นต์ และ 50 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเพดานอัตราภาษีตามปริมาณของสุรา ปรับเพิ่มจาก 400 บาท เป็น 1,000 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า หรือ 150 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราตามมูลค่า 30 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจาก 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กฎหมายปัจจุบันอัตราภาษีของเบียร์ตามมูลค่า เพดานสูงสุดที่ 60 เปอร์เซ็นต์ แต่จัดเก็บจริง 48 เปอร์เซ็นต์ ส่วนไวน์ เพดานอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ จัดเก็บจริง 0-36 เปอร์เซ็นต์ และสุรากลั่น อยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ จัดเก็บจริง 4-25 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ จากโครงสร้างภาษีดังกล่าวทำให้เพดานอัตราภาษีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะขยับขึ้น เนื่องจากฐานที่นำมาใช้ในการคำนวณภาษีเพิ่มขึ้น เปลี่ยนมาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ สำหรับอัตราการจัดเก็บจริงนั้น จะยึดหลักว่า ภาษีใหม่จะไม่เพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะประกาศอัตราได้ 1 สัปดาห์ก่อนภาษีจะมีผลบังคับใช้
กำลังโหลดความคิดเห็น