บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ปรับทัพแต่งตั้งผู้บริหาร 2 สายธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโต และมุ่งเน้นการขยายตัวอย่างยืน ด้านผลการดำเนินงานปี 59 มียอดขายรวม 4.64 แสนล้าน กำไรสุทธิ 1.47 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 33% พร้อมประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 95 สตางค์
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานปี 2559 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายจำนวน 464,465 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10% รายได้จากการขายของบริษัท กิจการต่างประเทศ และกิจการส่งออกจากประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 68% ของรายได้จากการขาย และกิจการในประเทศไทยมีสัดส่วน 32% โดยในภาพรวมผลการดำเนินงานของแต่ละประเทศเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับกำไรสุทธิของบริษัทสำหรับปี 2559 มีจำนวน 14,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน เป็นผลมาจากผลการดำเนินงานของธุรกิจสัตว์บกในประเทศไทยที่เข้าสู่ภาวะปกติ และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งในประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค Early Mortality Syndrome และผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยใหม่ในประเทศรัสเซีย และกัมพูชา รวมทั้งมาตรการในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี 2560 รวมทั้งสิ้นหุ้นละ 0.95 บาท โดยเงินปันผลดังกล่าวได้มีการจ่ายครั้งแรกเป็นเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นหุ้นละ 0.50 บาท เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2559 คงเหลือเป็นเงินปันผลจ่ายครั้งที่สองหุ้นละ 0.45 บาท
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจสำหรับปี 2560 ว่า สถานการณ์ และแนวโน้มของเศรษฐกิจ และพฤติกรรมทางสังคมที่มีความผันแปรอย่างรวดเร็ว ถือเป็นความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวทางกลยุทธ์หลักในการสร้างธุรกิจตามพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีโอกาส และศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ บริษัทจึงมีเป้าหมายในการสร้างการเติบโตของยอดขายประมาณ 10% จากปี 2559 โดยการเติบโตมาจากกิจการในต่างประเทศเป็นหลัก
จากแนวโน้มธุรกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงว่า โดยกำหนดธุรกิจออกเป็น 2 สายหลัก คือ สายธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และสายธุรกิจอาหาร แต่งตั้งนาย สุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร (ร่วม) สายธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และแต่งตั้งนาย สุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร (ร่วม) สายธุรกิจอาหาร
การแต่งตั้งผู้บริหารดังกล่าวสืบเนื่องจากซีพีเอฟ ได้มีการเติบโตของธุรกิจ รูปแบบในการดำเนินธุรกิจครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และมีขอบข่ายการดำเนินธุรกิจครอบคลุม 16 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในแต่ละพื้นที่มีโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจในแต่ละส่วนงาน โดยให้ทั้งสองสายธุรกิจมุ่งเน้นการขยาย และการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างมั่นคง และยั่งยืน ขณะเดียวกัน กำหนดให้บริหารธุรกิจสอดประสานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด