DRT แจงผลการดำเนินงานปี 2559 ทำกำไรโดดเด่นสูงถึง 392.03 ล้านบาท จากปัจจัยการเติบโตของตลาดต่างประเทศในกลุ่ม CLMV ที่ขยายตัวได้ดี ดันสัดส่วนรายได้แตะ 17-18% จากยอดขายรวม ขณะที่ปี 60 ผู้บริหารพร้อมเดินหน้ารุกตลาดทุกช่องทางการขาย รับแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างปีนี้มีสัญญาณฟื้นตัวที่ดี ตั้งเป้าสิ้นปีทำยอดขายรวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 5%
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา และบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ “ตราเพชร” เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2559 (มิถุนายน-ธันวาคม 2559) แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 8 มีนาคม 2560 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 หลังจากในช่วงครึ่งปีแรก DRT ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลทั้งปี 2559 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนที่ถือหุ้น DRT ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลเพื่อตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอทุกปี โดยเป็นการจ่ายปันผลต่อเนื่องมายาวนานกว่า 12 ปี นับตั้งแต่ที่มีการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันกำไรสุทธิในปี 2559 เติบโตได้อย่างโดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิ 392.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.44% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 330.99 ล้านบาท และมีรายได้ขายและบริการรวม 4,118.30 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน
สำหรับกำไรสุทธิในปี 2559 ที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นนั้น มาจากการบริหารจัดการต้นทุน และประสิทธิภาพการผลิตให้สอดคล้องกับทิศทางการทำตลาดที่ DRT ได้รุกทำตลาดผ่านช่องทางขายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ กลุ่มลูกค้าโครงการ กลุ่มตัวแทนจำหน่ายรายย่อย รวมถึงการเติบโตที่ดีในช่องทางส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งพบว่ามีอัตราการขยายตัวเป็นเลข 2 หลัก หลังจากที่บริษัทฯ ได้รุกทำตลาดวัสดุก่อสร้าง พร้อมสร้างตราสินค้า DIAMOND ให้เป็นที่ยอมรับด้านคุณภาพจากลูกค้าในภูมิภาคนี้ ส่งผลให้สัดส่วนยอดขายจากตลาดส่งออกโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 17-18% ของยอดขายรวมทั้งหมด
“ในปี 2559 ตลาดส่งออกในกลุ่ม CLMV ยังมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น โดยเฉพาะตลาด สปป.ลาว และกัมพูชา ที่ถือเป็นตลาดที่ทำยอดขายได้ดี รองลงมา ได้แก่ ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ และกลุ่มลูกค้าโครงการ โดยเรายังสามารถรักษาขีดความสามารถการแข่งขันที่ดี ส่งผลให้ทั้งปีเรามีอัตราการใช้กำลังการผลิตสินค้าเฉลี่ยมากกว่า 80% เพื่อผลักดันการเติบโตไว้ได้”
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% เนื่องจากตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2560 มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ จึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ตลอดจนกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวจากแนวโน้มราคาพืชผลทางเกษตรที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสของ DRT ที่มีความพร้อมด้านสินค้าและบริการที่สามารถนำไปใช้ก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง เพื่อผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น
สำหรับตลาดส่งออกในกลุ่ม CLMV ช่องทางการขายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ และกลุ่มลูกค้าโครงการ จะเป็นปัจจัยที่ยังมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของ DRT โดยคาดว่ายอดส่งออกจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 18-19% ของรายได้ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 2561 ขณะที่ช่องทางขายผ่านร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ และกลุ่มลูกค้าโครงการยังเติบโตได้ดีตามการลงทุนขยายสาขาใหม่ๆ และการพัฒนาที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกับร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายย่อยในปีนี้ที่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ดี จากยอดสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อเก็บสต๊อกไว้รอการขาย ทั้งนี้ จึงเป็นโอกาสของ DRT ที่จะผลักดันยอดขายเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้.