พลังงานบริสุทธิ์ แรงได้ใจปี 59 โชว์กำไรสุทธิ 3,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน ตอกย้ำเป็นผู้นำพลังงานหมุนเวียน รับอานิสงส์จากโรงไฟฟ้าพิษณุโลก เทคโนโลยีสุดล้ำ หมุนตามดวงอาทิตย์ พร้อมเตรียม COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม 126 เมกะวัตต์ เร็วๆ นี้ ดันกำลังการผลิตขยับแตะ 404 เมกะวัตต์ หนุนผลงานปี 60 โตก้าวกระโดด บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า ปี 2559 ที่ผ่านมา เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ของบริษัทที่ทำสถิติใหม่สูงสุดทั้งด้านรายได้ และผลกำไร โดยนับเป็นปีแรกที่บริษัทมีรายได้เกินกว่า 1 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงสุด กล่าวคือ ในปี 2559 บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 10,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,227 ล้านบาท หรือ 13% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีรายได้รวม 9,212 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 3,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 565 ล้านบาท หรือ 21% ทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ 2,687 ล้านบาท
“ผลการดำเนินงานในปี 2559 ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ได้รับอานิสงส์จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จ.พิษณุโลก ขนาด 90 เมกะวัตต์ ที่ติดตั้งระบบหมุนติดตามดวงอาทิตย์ และอุปกรณ์ทันสมัยที่สุด ซึ่งมีการจ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ไปตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 โดยบริษัทได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ มีทีมงานที่เชี่ยวชาญทำการออกแบบ และควบคุมการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าได้สูงสุดเมื่อเทียบกับโรงอื่นของบริษัท ทำให้ในปี 2559 โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 4 แห่ง สามารถผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าได้รวมกันทั้งสิ้น 566.51 ล้านหน่วย สูงกว่าปี 2558 ถึง 43%” นายอมร กล่าว
ส่วนรายได้จากธุรกิจไบโอดีเซล ในปี 2559 อยู่ที่ 4,902 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีรายได้ 5,242 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการที่กรมธุรกิจพลังงานได้ประกาศลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.59 เป็นต้นมา เพื่อรักษาสมดุลของวัตถุดิบในตลาด ส่งผลต่อปริมาณการขาย และราคาขายของบริษัทฯ
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2560 คาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้า เนื่องจากในปีนี้จะเป็นปีแรกที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ ของ EA ผลิตไฟฟ้าได้เต็มตลอดทั้งปี อีกทั้งจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่จังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช กำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียม COD เร็วๆ นี้ ทำให้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าจะเพิ่มเป็น 404 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม "โครงการหนุมาน" จังหวัดชัยภูมิ ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อดำเนินโครงการต่อไปภายหลังจากมีความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าแล้ว” นายอมร กล่าวในที่สุด
สำหรับการขยายธุรกิจไปยังอุปกรณ์จัดเก็บพลังงาน (Energy Storage) หรือที่เรียกว่า แบตเตอรี่นั้น บริษัทได้ทำการลงทุนในบริษัท Amita Technologies Inc ประเทศไต้หวัน ในสัดส่วน 32.50% เรียบร้อยแล้ว ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้จะสามารถนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งโรงไฟฟ้า ยานพาหนะ โรงงาน อาคาร บ้านเรือน เป็นต้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นการเตรียมการเพื่อพัฒนาธุรกิจ และขยายการลงทุนร่วมกัน ซึ่งจะได้เปิดเผยรายละเอียดในทราบต่อไป
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 60 เห็นควรให้ออกหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงิน และรองรับการเติบโตตามแผนงานของบริษัท และบริษัทในเครือ และเห็นควรจ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ซึ่งจะได้นำเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีต่อไป