xs
xsm
sm
md
lg

WHA Group กำไรโต 48%-ปันผลหุ้นละ 0.1536 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น งวดสิ้นปีอวดรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม และกิจการร่วมค้า 19,325.0 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,898.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อน จากการรับรู้รายได้รวมทั้งหมดของกลุ่มธุรกิจหลัก รวมถึงการโอนทรัพย์สินให้ 2 กองทรัสต์ คือ ทรัสต์ HREIT และทรัสต์ WHART ส่งผลให้รับรู้เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน 10,424.5 ล้านบาท เดินหน้านำ WHAUP เข้าตลาด

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ผู้นำด้านลอจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ และนิคมอุตสาหกรรมแบบครบวงจรในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำปี 2559 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม และกิจการร่วมค้า 19,325.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรฯ ที่ 13,102.2 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,898.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 1,953.7 ล้านบาท

ขณะที่ผลดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม และกิจการร่วมค้า 13,989.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรฯ ที่ 8,984.4 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,401.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิที่ 1,784.9 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 4 และงวดปี 2559 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน และรายได้ค่าเช่า ค่าบริการ และค่าสาธารณูปโภคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการรับรู้รายได้จากการโอนทรัพย์สินให้ 2 กองทรัสต์ คือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอพรีเมี่ยม โกรท (WHART)
 
โดยมีมูลค่ารวมจากการขายทรัพย์สิน 12,208.6 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัสต์ HREIT มูลค่า 8,018.6 ล้านบาท และทรัสต์ WHART (เพิ่มทุนครั้งที่ 2) มูลค่า 4,190 ล้านบาท ซึ่งสามารถรับรู้เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนจำนวนรวม 10,424.5 ล้านบาท หลังจากการหักส่วนที่ไม่สามารถรับรู้ได้จากการค้ำประกันรายได้ให้แก่กองทรัสต์ และส่วนของที่ดินที่จะทยอยรับรู้รายได้ตลอดอายุสัญญาเช่า (กรณี HREIT) รวมถึงการเติบโตของค่าเช่า และค่าบริการของบริษัทฯเองปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เช่าคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า รวมทั้งค่าบริการระบบสาธารณูปโภค ซึ่งเติบโตขึ้นจาก 2,970.7 ล้านบาท เป็น 3,658.0 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 23.1%

อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายที่ดินปรับตัวลดลงในปี 2559 จากการโอนที่ดินที่น้อยลง เมื่อเทียบกับปี 2558 การเติบโตเพิ่มขึ้นของบริษัทฯ ประจำงวดปี 2559 ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 6,405.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,399.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 59.9% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น จำนวน 4,006.4 ล้านบาท ซึ่งความโดดเด่นของผลการดำเนินงานของ WHA GROUP ในปี 59 หนุนให้รายได้รวมของบริษัทฯ เติบโตมากกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่บริษัทฯ มีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรฯ ทั้งปีอยู่ที่ 13,102 ล้านบาท

ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัตินำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 สำหรับการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 0.1536 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินประมาณ 2,200 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานในปี 2559 อีกด้วย

นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA Group) ยังได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจใน 2560 ว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายโมเดลธุรกิจ 4 กลุ่มหลัก (Hubs) ประกอบด้วย Logistics Hub, Industrial Hub, Utility & Power Hub และ Digital Hub ตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะการขยายการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ รองรับเป้าหมายของบริษัทในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านลอจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ และนิคมอุตสาหกรรมแบบครบวงจรในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)

พร้อมกันนี้ นางสาวจรีพร ยังได้กล่าวถึงการนำ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 229.50 ล้านหุ้นว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอข้อมูลกลุ่มนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งนี้ หากนำ WHAUP เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรพย์ฯ เป็นที่เรียบร้อย จะส่งผลเชิงบวกต่ออัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ลดลงอยู่ที่ประมาณ 1.3 เท่า

นอกเหนือจากการนำ WHAUP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้น คาดว่าจะเริ่มเห็นการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ในประเทศเวียดนาม ขนาดพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้รับหนังสือรับรองการจดทะเบียนการลงทุน (Investment Registration Certificate) จากรัฐบาลเวียดนาม เพื่อเริ่มดำเนินการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนามอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จากก่อนหน้านี้ที่มีการลงทุนในการพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างคลังสินค้าในประเทศอินโดนีเซีย ขนาดประมาณ 2.5 หมื่นตารางเมตร ขณะที่ธุรกิจด้านดิจิตอลจะเริ่มเห็นความชัดเจนด้านการลงทุนมากขึ้นในปี 2560
กำลังโหลดความคิดเห็น