กรมธนารักษ์ เปิดให้ประชนแลกเหรียญที่ระลึก 100 ปีสหกรณ์ไทย และเหรียญที่ระลึก AEC ซึ่งเป็นเหรียญฯ 2 รุ่นสุดท้ายที่ในหลวง ร.๙ ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ มูลค่าราคาเหรียญละ 20 บาท ขณะที่ความคืบหน้าในการเตรียมจัดทำเหรียญที่ระลึกในราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อยู่ในขั้นตอนการผลิตต้นแบบของเหรียญ โดยคาดจะเริ่มแกะแบบได้ในเดือน มี.ค.นี้
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้จัดทำเหรียญกษาปณ์ ที่ระลึก 2 วาระ ประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ ที่ระลึก 100 ปี การสหกรณ์ไทย และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกการเข้า ร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ASEAN Economic Community : AEC เพื่อเป็นที่ระลึกและเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อการ ส่งเสริมงานสหกรณ์ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเป็นที่ระลึกในโอกาสสำคัญของ ประเทศไทย และประเทศอาเซียน ซึ่งเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกทั้ง 2 วาระดังกล่าวได้ผ่านการอนุมัติหลักการจากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 15 และ 20 มิถุนายน 2559 และเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 2 โอกาสสุดท้าย ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี การสหกรณ์ไทย โดยจัดทำเป็นเหรียญกษาปณ์โลหะสี ขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา โดยมีลวดลาย ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผินพระพักตร์ทางเบื้องซ้าย ทรงฉลองพระองค์ชุดสากล ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดุลยเดช”
ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปเกลียวเชือกล้อม ด้วยเส้นวงกลม ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “ครบ 100 ปี การสหกรณ์ไทย 26 กุมภาพันธ์ 2559” เบื้องล่างมีข้อความบอกราคาว่า “20 บาท” และข้อความว่า “ประเทศไทย” โดยมีลายไทยประดิษฐ์คั่นระหว่าง ข้อความเบื้องบนกับเบื้องล่างทั้งสองข้าง
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกการเข้า ร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ASEAN Economic Community : AEC โดยจัดทำเป็นเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา โดยมีลวดลาย ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผินพระพักตร์ทางเบื้องขวา ทรงฉลองพระองค์ชุดสากล ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” โดยมีลายช่อกระหนกเปลวอยู่ด้านหน้า และหลังของข้อความ
ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์อาเซียน ด้านขวาตราสัญลักษณ์มีข้อความบอกราคาว่า “20 บาท” ด้านซ้ายมีข้อความว่า “20 BAHT” ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า “การเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” และข้อความว่า “ASEAN Economic Community : AEC” เบื้องล่างมีข้อความว่า “31 December 2015 THAILAND” และข้อความว่า “31 ธันวาคม 2558 ประเทศไทย”
โดยกรมธนารักษ์ จะจัดจ่ายให้กับประชาชนรายละ 1 ชุดๆ ละ 5 เหรียญ ประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก AEC จำนวน 2 เหรียญ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี การสหกรณ์ไทย จำนวน 2 เหรียญ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 50 ปี ฝนหลวงพระราชทาน จำนวน 1 เหรียญ
นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวต่อว่า ผู้ที่ประสงค์จะขอแลกเหรียญกษาป ณ์ที่ระลึกทั้ง 2 วาระ สามารถขอแลกได้ตั้งแต่วันที่ 1, 2, 3, 6 และ 7 มีนาคมนี้ (5 วันทำการ) ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ได้ที่ส่วนกลาง หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ สำนักบริหารเงินตรา ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพฯ, หน่วยจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ถนนพระราม 6, กรุงเทพฯ หน่วยรับและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ สำนักบริหารเงินตรา ถนนพหลโยธิน จังหวัดปทุมธานี และส่วนภูมิภาค สามารถขอแลกได้ที่ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ 76 พื้นที่ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
สำหรับความคืบหน้าในการจัดทำเหรียญที่ระลึกในราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น นายจักรกฤศฏ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการผลิตต้นแบบของเหรียญ โดยด้านหน้าเหรียญจะเป็นพระบรมรูปฯ ที่เคยเตรียมไว้เพื่อฉลองครบรอบ 90 พรรษา และด้านหลังตลจะเป็นรูปพระเมรุมาศ โดยในเดือนมีนาคมนี้ กรมธนารักษ์จะได้เริ่มทดลองพิมพ์เหรียญที่ระลึกต้นแบบออกมาดูก่อน แต่เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีการกำหนด คือ วันที่จะทำพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ดังนั้น กรมธนารักษ์จะยังไม่เปิดให้ประชาชนจองเหรียญได้จนกว่าจะมีข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว
การจัดทำเหรียญที่ระลึกในพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ นี้ กรมธนารักษ์แบ่งการจัดทำเหรียญฯ เป็น 4 ชนิด คือ 1.เหรียญทองคำมูลค่า 50,000 บาท, 2.เหรียญเงินมูลค่า 3,000 บาท เหรียญทองแดงใหญ่มูลค่า 2,000 บาท โดยเหรียญทั้ง 3 แบบนี้จะจัดทำขึ้นตามจำนวนของยอดจอง และ 4. เหรียญนิเกิลมูลค่า 100 บาท ซึ่งจะมีจำนวนทั้งสิ้น 39,999,999 เหรียญ
ส่วนเหรียญที่ระลึกในราชพิธีราชาภิเษก และเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนเพื่อเริ่มต้นรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร หรือในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ นั้น อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการออกแบบ