โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส โชว์งบปี 59 อวดกำไรหนักมาก 848.97% รายได้รวม 319.10 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผล 90.68% จัดสรรในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 เผยแผนธุรกิจลุยเสนองานภาครัฐ-เอกชนเต็มสูบ ทั้งงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการ และงานออกแบบ Backlog 500 ล้านบาท มั่นใจธุรกิจปีนี้แนวโน้มเติบโตสูงสุดในรอบ 30 ปี ตั้งเป้าโต 10%
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 59 ของบริษัทว่า มีรายได้รวมจำนวน 319.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 238.92 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33.56% และมีกำไรสุทธิ จำนวน 32.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 3.39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 848.97 %
สำหรับรายได้รวมของบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้น ตามสภาวะตลาดงานก่อสร้างที่มีเเนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีโอกาสได้รับงานบริหาร เเละควบคุมงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2, โครงการ Icon Siam และโครงการ Langsuan Village ฯลฯ ทั้งนี้ บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรได้ในระดับที่น่าพอใจ ด้วยระบบการบริหารจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพ การดำเนินงานแล้วเสร็จในกรอบระยะเวลาที่วางแผนไว้
“บริษัทได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากมาตรฐานการดูแลบริหารงานที่แม่นยำ และส่งมอบงานรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้บริษัทได้รับการเข้าเสนองานทั้งภาครัฐ และเอกชนอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ทั้งโครงการก่อสร้างในงานเมกะโปรเจคภาครัฐ ภาคธุรกิจค้าปลีก โรงงาน โรงแรม สำนักงาน และคอนโดมีเนียม ซึ่งมีความมั่นใจว่า ปี 60 ผลประกอบการจะเป็นการทำนิวไฮในรอบ 30 ปี ต่อเนื่องจากปี 59 ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือประมาณ 500 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโต 10%” ดร.พงศ์ธร กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.05556 บาท หรือคิดเป็น 90.68% ของกำไรสุทธิ โดยการจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตราส่วน 5:1 ซึ่งถือเป็นอีกปีที่บริษัทจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราดังกล่าว บริษัทจะกำหนดวัน Record Date วันที่ 11 พฤษภาคม 2560 และปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 และจ่ายปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2560
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินงานบริษัทยังคงเดินหน้าเสนองานในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น เน้นยกระดับการบริหารควบคุมโครงการก่อสร้างในรูปแบบของ PPS โดยใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ติดตามงาน และรายงานความคืบหน้าของโครงการด้วยโปรแกรม Project Live ที่บริษัทพัฒนาขึ้น รวมถึงการขยายธุรกิจของบริษัทลูก PPSD และ Swan & Maclaren ในส่วนงานบริการด้านการออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมอย่างต่อเนื่อง