นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า ธนาคารได้ออกบริการสินเชื่อหมุนเวียนพร้อมบริการประกันการส่งออก หรือสินเชื่อส่งออกพลัสเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการของไทย โดยมีเงื่อนไขวงเงินกู้สูงสุดที่ 50 ล้านบาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 สำหรับกรณีการกู้สกุลเงินบาทจะอยู่ที่ 4.5% ต่อปี และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกำหนดคิดอัตราดอกเบี้ย LIBOR+3% ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ยในปีที่ 2 จะอยู่ที่ Prime Rate ของ EXIM BANK -1% ต่อปี และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะคิดอัตราดอกเบี้ย LIBOR + 3.5% ต่อปี โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อส่งออกพลัส ที่ราว 3,000 ล้านบาท หรือจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกได้ 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับกับสัญญาณการส่งออกของไทยที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2559 และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปี 2560 ซึ่งธนาคารพิจาณาว่า เป็นโอกาสของกลุ่มผู้ส่งออกไทยที่จำนวนรวม 50,000 ราย โดยในจำนวนดังกล่าวจะมี 40,000 รายที่เป็นผู้ส่งออกในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) นั้น ก็น่าจะมีโอกาสในการส่งสินค้าออกไปขายในต่างประเทศได้
ส่วนแนวโน้มการเคลมประกันการส่งออกทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปีก่อนจะมีทั้งสิ้น 15 รายติด เป็นมูลค่า 20 ล้านบาท แต่หากคิดเป็นสัดส่วนความสูญเสีย (LOSS RATIO) จะมีอยู่ประมาณ 19-20% โดยเป็นอัตราต่ำสุดเมื่อเทียบจากทั้งระบบ ซึ่งจะมี LOSS RATIO) อยู่ราว 50% อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาความสูญเสียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการด้านประกันการส่งออกที่เป็นต่างชาติในไทยนั้น จะมีสูงถึง 40 ถึงกว่า 100%