xs
xsm
sm
md
lg

สหมิตรถังแก๊ส ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 15-20%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สหมิตรถังแก๊ส ตั้งเป้ายอดขายปี 2560 โต 15-20% หลังประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมถังแก๊สยังสดใส โดยเฉพาะดีมานด์ในตลาดต่างประเทศยังมีอีกมาก เผยอยู่ระหว่างการศึกษาจัดตั้งโรงงานแห่งใหม่ในต่างประเทศ พร้อมทั้งรุกตลาดนอกอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารปลื้มผลงานปี 2559 ออกมาสวยทั้งรายได้ที่ยอดขายเฉียด 3,500 ล้านบาท และกำไรพุ่ง 21% บอร์ดไฟเขียวปันผลอีก 0.34 บาท/หุ้น ทั้งปีปันผลรวม 0.64 บาท/หุ้น

นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายในและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SMPC” รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในปี 2560 นี้ คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการใช้ถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายปี 2560 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปี 2559 ที่มียอดขาย 3,469 ล้านบาท ซึ่งจากการประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมการใช้ถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลวมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ไตรมาส 1/60 มีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะดีมานด์ในตลาดต่างประเทศ

สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 2560 บริษัทฯ ยังเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นหลัก เนื่องจากยังมีโอกาส และช่องทางการเติบโตอีกมาก จากความต้องการใช้ถังแก๊ส LPG ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในตลาดแอฟริกา และเอเชียใต้ โดยเฉพาะบางประเทศในแถบเอเชียใต้ มีการเปลี่ยนการใช้พลังงานเชื่อเพลิงเป็น LPG และตามความต้องการที่สูงขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีขึ้น ขณะที่ SMPC ยังคงมีการขยายกำลังการผลิตรองรับความต้องการที่สูงขึ้นดังกล่าว โดยในปี 2560 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 7.2 ล้านใบ เพิ่มจากปี 2559 ที่มีกำลังการผลิต 6.2 ล้านใบ คิดเป็นอัตราการใช้กำลังการผลิตในปี 2560 ที่คาดว่าจะยังคงสูงถึง 90% โดยโรงงานเดิมในประเทศยังสามารถขยายกำลังการผลิตใหม่ได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาแผนการขยายโรงงานใหม่ไปยังต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขัน และรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตไปได้ดี

“ประเมินว่า ปริมาณการขายเฉลี่ยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า จะยังคงเติบโตในระดับเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15% ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการถังแก๊สในภูมิภาคแอฟริกา และเอเชียใต้ ที่คาดว่ายังเติบโตสูง ซึ่งคาดว่าปี 2560 ยอดขายของบริษัทฯ จะยังเติบโตต่อ 15-20% จากการที่มีมูลค่างานคงค้างในมือสะสม และทิศทางตลาดต่างประเทศยังมีโอกาสประมูลงานเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลาดต่างประเทศเป็นช่องทางจำหน่ายหลักที่สำคัญในการเพิ่มยอดขาย และกำไรสุทธิในอนาคต ขณะเดียวกัน จากการเติบโตของปริมาณขายต่อปีที่ค่อนข้างสูง SMPC จึงจำเป็นต้องขยายกำลังการผลิตรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ SMPC ต้องศึกษาการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม โดยโรงงานในประเทศสามารถรองรับการผลิตได้อย่างน้อยจนถึงปี 2561 ทั้งนี้ มองหาโอกาสในการขยายกำลังการผลิตทั้งการตั้งโรงงานใหม่ไปยังต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ในด้านลดระยะเวลา และต้นทุนการขนส่งสินค้า และมาตรการกีดกันทางการค้า เช่น กำแพงภาษีจากการส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายในประเทศนั้นๆ” นายสุรศักดิ์ กล่าว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ งวดปี 2559 บริษัทฯ มียอดขายอยู่ที่ 3,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2558 ที่มียอดขาย 2,826 ล้านบาท โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 643 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23% โดยสัดส่วนการขายส่วนใหญ่อยู่ในแถบแอฟริกา และเอเชีย ส่วนกำไรสุทธิงวดปี 2559 อยู่ที่ 541 ล้านบาท จากงวดปี 2558 อยู่ที่ 447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 21% สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขาย และอัตราการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยสุทธิกับค่าใช้จ่ายในการขาย และภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 4.3% จาก 24.3% เป็น 28.6% เป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลง ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเล็กน้อย ทำให้อัตราการทำกำไรดีขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2559 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.64 บาท ซึ่งได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วสำหรับงวด 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2559 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ (พาร์) 1.00 บาท เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2559 โดยยังคงเหลือเงินปันผล

สำหรับงวด 1 ก.ค.-31 ธ.ค.2559 ในอัตราหุ้นละ 0.34 บาทต่อหุ้น (พาร์) 1.00 บาท หรือคิดเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 180 ล้านบาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 4 เม.ย.60 และวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นวันที่ 10 เมษายน 2560 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2560 หากผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560
กำลังโหลดความคิดเห็น