xs
xsm
sm
md
lg

บ้าน (ใหม่) แบบไหน ปลอดภัยจากน้ำท่วม?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


คำถามที่เกิดขึ้นอย่างมากมายระหว่างวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ นอกเหนือจากการซ่อมแซมบ้าน และที่อยู่อาศัยแล้ว คงเป็นเรื่องที่ว่า เราจะออกแบบบ้านใหม่ หรือปลูกบ้านใหม่กันอย่างไรดี ถึงจะอยู่รอดปลอดภัยจากน้ำท่วมกันอย่างไร

ผมเชื่อว่า หลังจากวิกฤตการณ์นี้ผ่านพ้นไป เราคงได้เห็นนวัตกรรมทางการออกแบบบ้าน และที่อยู่อาศัย เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำในรอบใหม่จากบรรดานักออกแบบ และผู้เกี่ยวข้องกันอีกมากมายแน่ๆ ครับ ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องดีที่สังคมจะมีโอกาสมากขึ้นในการได้เรียนรู้ ได้เลือกซื้อหาบ้านแบบใหม่ๆ ที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ซึ่งแตกต่างจากโจทย์ในการอยู่อาศัยแบบเดิมๆ ที่คุ้นเคยกันมาอย่างแน่นอนครับ

อย่างไรก็ตาม ผมขอนำเสนอหลักการเบื้องต้นสำหรับบ้านคนไทยยุคใหม่ที่สามารถหนีน้ำ หรืออยู่ร่วมกับน้ำท่วมได้อย่างมีความสุขตามอัตภาพ หลายเรื่องก็เป็นการนำภูมิปัญญาแบบไทยๆ ของเราแต่ครั้งอดีตกาลที่เราอาจหลงลืมกันไปมาใช้กันอีกครั้ง ส่วนหลายเรื่องก็เป็นการปรับแก้ไขจากการใช้งานเดิมๆ ที่มีปัญหาจากสภาพน้ำท่วมที่ผ่านมา เพื่อนำไปประยุกต์ให้เข้ากับรสนิยม สไตล์ ทำเลที่ตั้ง และความชอบส่วนบุคคลของแต่ละท่านได้

สำหรับรูปแบบบ้าน : การออกแบบบ้าน หากท่านไม่อยากนั่งกังวล หรือนั่งลุ้นกับน้ำว่าจะท่วม หรือไม่ท่วมบ้านท่านในปีต่อๆ ไป แนะนำว่า ท่านควรยกระดับพื้นบ้านเป็นใต้ถุนโล่งแบบบ้านเรือนไทยเดิม ความสูงตั้งแต่ 1.20-2.00 เมตร ตามสภาพระดับน้ำ และภูมิประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมขัง และลดความเสียหายของตัวอาคาร และทรัพย์สินในฤดูน้ำ นอกจากนี้แล้ว การเปิดใต้ถุนโล่งยังลดความเสี่ยงจากปลวกใต้ดินเข้าเยี่ยมเยือนตัวบ้าน รวมทั้งท่านยังสามารถบำรุงรักษา และซ่อมแซมท่อ และระบบอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ภายใต้พื้นบ้านได้สะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับระบบการสัญจรเข้าสู่ตัวบ้าน และภายในบ้าน นอกเหนือจากบันไดปกติแล้ว ควรพิจารณาใช้ทางลาดเอียง (Ramp) ที่มีความลาดชันตามกฎหมายควบคู่กันไปด้วย (1:12) เพื่อความสะดวกในการเดินเหินของผู้อาศัยที่เป็นผู้สูงอายุ และเด็ก รวมทั้งยังทำให้การเคลื่อนย้ายสิ่งของ และผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉินทำได้สะดวกเช่นกัน

จำนวนชั้นของบ้านจากเดิมที่เคยเป็นชั้นเดียว หรือสองชั้น อาจพิจารณาเพิ่มเป็นสองชั้นครึ่ง หรือสามชั้น เพื่อให้มีพื้นที่บ้านรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ครับ นอกจากนี้ ในส่วนชั้นล่างที่เป็นใต้ถุนโล่งอาจออกแบบให้เป็นพื้นที่ใช้งานในช่วงปลอดน้ำได้ครับ โดยเลือกใช้ผนังสำเร็จรูปที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอย หรือถอดประกอบได้ เมื่ออยู่ในช่วงน้ำหลาก หรือน้ำท่วมขังนานๆ ครับ

ส่วนของวัสดุประกอบสำคัญในตัวบ้านทั้งส่วนพื้น ผนัง และฝ้าเพดาน ยังสามารถใช้วัสดุก่อสร้างแบบเดิมๆ ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดได้ แต่ควรพิจารณาความแข็งแรงทนทานจากน้ำท่วมขังนานๆ หรือน้ำกัดเซาะในพื้นที่น้ำหลาก ซึ่งจะเป็นไปในลักษณะของการเลือกวัสดุปูพื้นบ้านชั้นล่าง ควรเลือกใช้หินประเภทต่างๆ หรือกระเบื้องมากกว่าไม้ ปาร์เก้ และไม้ลามิเนตครับ ผนังบ้านชั้นล่าง หรือจุดที่น้ำท่วมถึงควรเลือกใช้ผนังปูนมากกว่าผนังไม้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการตกแต่งประดับผนังชั้นล่างด้วยวัสดุไม้ เพื่อลดความเสียหายครับ รวมทั้งควรเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างในส่วนฐานรากคานคอดิน และวัสดุของตัวบ้านชั้นล่าง

ประตู หน้าต่าง สำหรับชั้นที่น้ำท่วมถึง ควรหลีกเลี่ยงประตู และวงกบไม้เนื้อแข็ง เพื่อลดความเสี่ยงจากการความเสียหายจากน้ำท่วม ควรเลือกใช้ประตู หน้าต่างอลูมิเนียมจะทนน้ำท่วมได้ดีกว่า

ระบบไฟฟ้า : ควรแยกวงจรจ่ายกระแสไฟฟ้าแต่ละชั้นออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งในแง่ของการติดตั้ง และความละเอียดของวงจร เช่น แยกวงจรไฟฟ้าแสงสว่าง และอุปกรณ์ไฟฟ้าออกจากระบบปรับอากาศ แยกวงจรควบคุมออกเป็นชั้น และส่วนๆ ตามลักษณะการใช้งาน เพื่อความยืดหยุ่นในการตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าออกจากกัน และควรเดินสายไฟลอยเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ และซ่อมแซม

สำหรับชั้นล่างควรเดินระบบสายไฟฟ้าสำรองเพิ่มเติม เพื่อแยกใช้งานในกรณีฉุกเฉิน เพื่อสำรองสำหรับการใช้ไฟฟ้าแสงสว่าง อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ นอกจากนี้ ในจุดที่มีความสำคัญของบ้านชั้นล่าง อาจพิจารณาเลือกใช้สายไฟฟ้าประเภททนน้ำ และฝังดินได้ เพื่อความมั่นใจในการใช้งานขณะน้ำท่วมขังครับ รวมทั้งการเดินสายโทรศัพท์ในบ้านก็ต้องพิจารณารูปแบบ และตำแหน่งเชื่อมต่อที่มีความเสี่ยงจากน้ำท่วมน้อยที่สุด

สำหรับระดับการติดตั้งปลั๊ก และสวิตช์บ้านชั้นล่างที่มีความเสี่ยงจากน้ำท่วมถึง ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ในระดับต่ำใกล้พื้นแบบเดิม ควรติดตั้งสูงจากระดับพื้นประมาณ 1.20-1.40 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงจากความเสียหายของอุปกรณ์จากน้ำท่วมขังครับ

ระบบประปา : แนวทางการเดินระบบประปาควรแยกการควบคุมแต่ละชั้นออกจากกันเช่นเดียวกับระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะชั้นล่างๆ ตัวท่อ ไม่ว่าจะเป็นท่อน้ำ หรือท่อน้ำโสโครก ควรติดตั้งแบบเดินลอยสูงจากพื้นประมาณ 0.40-0.50 เมตร เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ และซ่อมแซม ทั้งขณะน้ำท่วม และช่วงปกติครับ ควรติดตั้งท่ออากาศในท่อน้ำโสโครกให้ครบทุกจุด และวางให้ปลายท่ออากาศยาวพ้นระดับน้ำท่วมอย่างเพียงพอ เพื่อรักษาสภาพการใช้งานให้มีประสิทธิภาพทั้งในภาวะปกติ และน้ำท่วมครับ รวมทั้งควรเลือกใช้ท่อ PE แทนท่อ PVC เนื่องจากตัวท่อจะมีความยืดหยุ่น และทนทานต่อความเสียหายได้ดีกว่า

นอกจากนี้ การติดตั้งปั๊มน้ำควรติดตั้งสูงจากระดับพื้นชั้นล่างอย่างน้อย 0.50 เมตร หรือเหนือระดับน้ำท่วมขัง เพื่อให้ระบบประปายังใช้งานได้เป็นปกติตลอดเวลาขณะน้ำท่วม และยังลดความเสี่ยงจากความเสียหายของอุปกรณ์

สำหรับตำแหน่งการติดตั้งถังเก็บน้ำในบ้าน ควรหลีกเลี่ยงการฝังดินเพื่อป้องกันน้ำท่วมไหลเข้าสู่ถังเก็บน้ำ ซึ่งจะมีผลต่อสุขอนามัยในการใช้งาน ควรเลือกใช้ถังเก็บน้ำสำเร็จรูปแบบวางตั้งพื้นจะมีความเสี่ยงจากน้ำท่วมไหลย้อนเข้าฝาถังได้ดีกว่า เนื่องจากระดับฝาถังจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำท่วมขังมากกว่าการติดตั้งถังแบบฝังดิน ระบบบำบัดน้ำเสียควรเลือกใช้ถังบำบัดสำเร็จรูปมากกว่าบ่อเกรอะ บ่อซึม เพราะจะทำงานได้ดีกว่าในช่วงน้ำท่วมขัง และมีระบบการป้องกันน้ำท่วมไหลเข้าฝาถังบำบัด นอกจากนี้ ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมควรพิจารณาติดตั้งถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปสำรองสำหรับใช้งานในช่วงน้ำท่วมเพิ่มเติมตั้งอยู่ที่ระดับดิน เพื่อการใช้งานได้อย่างปกติในขณะน้ำท่วม นอกจากนี้ การติดตั้งปั๊มน้ำควรติดตั้งไว้ที่ระดับชั้นสอง เพื่อลดความเสียหายของอุปกรณ์ และการใช้งานในช่วงน้ำท่วมได้

ระบบท่อระบายน้ำควรพิจารณาจัดทำพื้นที่เก็บกักน้ำ หรือ Sump Area เพื่อเป็นพื้นที่รองรับน้ำในจุดที่ต่ำที่สุดของท่อระบายน้ำภายในบ้าน และเตรียมการติดตั้งปั๊มน้ำเพื่อการสูบน้ำท่วมขังออก และติดตั้งประตูน้ำเพื่อควบคุมน้ำไหลย้อนกลับเข้าท่อระบายน้ำภายใน และตัวบ้าน จะช่วยแก้ปัญหาจากสภาพน้ำท่วมขังในบริเวณบ้านได้ครับ

ระบบปรับอากาศ : สำหรับอุปกรณ์ปรับอากาศที่ใช้งานในบ้านทุกชั้น ไม่ควรวางคอยล์ร้อน หรือคอนเดนเซอร์ไว้ที่ระดับพื้นดิน อย่างน้อยควรติดตั้งที่ระดับพื้นชั้นสอง หรือติดตั้งบนตะแกรงเหล็กที่รับน้ำหนักตัวเครื่องได้ในระดับพื้นชั้นสองขึ้นไป เพื่อลดความเสี่ยง และความเสียหายของอุปกรณ์จากน้ำท่วมขัง

เฟอร์นิเจอร์ : การเลือกใช้งานเฟอร์นิเจอร์ในชั้นล่าง หรือชั้นที่มีความเสี่ยงจากน้ำท่วม ควรหลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in หรือควรเป็นรูปแบบที่ท่านสามารถถอดประกอบได้ หรือหากจำเป็นควรหลีกเลี่ยงการออกแบบให้ตัวเฟอร์นิเจอร์ Built-in ยาวจรดพื้น ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวเป็นหลักเพื่อความสะดวกในการขนย้าย และห่อหุ้มป้องกันน้ำได้สะดวกกว่าครับ

อุปกรณ์คู่บ้าน : สิ่งที่ต้องเตรียมไว้คู่กับบ้านใหม่ในยุคน้ำท่วมทุกบ้าน ควรมีอุปกรณ์ป้องกันน้ำเข้าบ้านเบื้องต้นที่สามารถนำมาใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นถุงห่อรถ แผ่นพลาสติกผืนใหญ่กันน้ำ ถุงกันน้ำขนาดใหญ่ ปืนยิงซิลิโคน วัสดุอุดต่างๆ เครื่องสูบน้ำ รวมทั้งอุปกรณ์ยังชีพในขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย เชือก เสื้อชูชีพ รองเท้าบูทกันน้ำยา อาหารแห้ง เชื้อเพลิง ฯลฯ ก็ควรจัดเตรียมไว้ทั้งในระดับตัวบุคคล และสำหรับครอบครัวในช่วงเทศกาลน้ำหลากในครั้งต่อๆ ไป.

เรียบเรียงโดย ผศ.รัชด ชมภูนิช คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


กำลังโหลดความคิดเห็น