ธปท.เตือนตลาดเงินปีนี้มีความไม่แน่นอนสูง เตือนเอกชนระวังความผันผวน พร้อมจี้ให้ทำเฮดจิ้งอัตราแลกเปลี่ยน หลับพบเอกชนทำเฮดจิ้งในปีที่ผ่านมา ลดลง ยอมรับตั้งแต่ต้นปีเงินบาทผันผวนที่ 3.7% ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนสามารถเคลื่อนไหวได้ 2 ทิศทาง
นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตลาดเงินในปีนี้มีความไม่แน่นอนสูงมาก นับตั้งแต่ที่นานโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า แต่เมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เงินดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าลง
โดยอัตราความผันผวนเงินบาทตั้งแต่ต้นปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 3.7 สูงกว่าค่าเงินรูเปียะห์ ของอินโดนีเซีย ที่มีค่าความผันผวนร้อยละ 3.3 ส่วนเปโซ ฟิลิปปินส์ ผันผวนร้อยละ 4.3 เงินหยวน จีน ร้อยละ 4.5 สิงคโปร์ดอลลาร์ ร้อยละ 8.1 และวอนเกาหลีใต้ ร้อยละ 13.5 ดังนั้น
ดังนั้น ธปท.จึงเตือนภาคเอกชนให้ระวังความผันผวนของค่าเงิน เพราะอัตราแลกเปลี่ยนสามารถเคลื่อนไหวได้ 2 ทิศทาง ขอให้เอกชนซื้อประกันป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า (เฮดจิ้ง) ซึ่งที่ผ่านมา ธปท.เน้นการดูแลค่าเงินบาทบางช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถฝืนกระแสตลาดได้
ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยอัตราการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนในปี 2559 พบว่า ผู้ส่งออกมีการซื้อประกันความเสี่ยงร้อยละ 19.7 ลดลงจากปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 24.27 ขณะที่ผู้นำเข้าซื้อประกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 26.8 จากร้อยละ 26.1 ในปี 2558 ซึ่ง ธปท.คาดหวังให้เอกชนทำเฮดจิ้งเพิ่มขึ้น
นางสาววชิรา กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพนักค้าเงิน คณะกรรมการตลาดการเงินไทย ซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. สมาคมตราสารหนี้ไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดทำมาตรฐาน และพัฒนาคุณภาพผู้ค้าเงิน โดยกำหนดให้ผู้ค้าเงินที่อยู่ในตลาดเงิน และตลาดเงินตราต่างประเทศ จำนวน 700 คน เข้ารับการทดสอบความรู้พื้นฐาน กฎระเบียบ และจริยธรรม โดยนักค้าเงินที่มีประสบการณ์มาแล้วตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ซึ่งมีประมาณ 500 คน จะได้รับอนุโลมไม่ต้องสอบเรื่องเทคนิค แต่ต้องผ่านการอบรมจากวิทยากรของ ธปท. และผู้เชี่ยวชาญจากสิงคโปร์ โดยต้องมีการต่ออายุทุก 2 ปี ด้วยการอบรม ซึ่ง ธปท.จะเปิดรับสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป และคาดว่าจะสามารถรับรองคุณสมบัติผู้ค้าเงินได้ครบถ้วนภายในเดือนกันยายน 2560 ซึ่งหวังว่าแม้การกำหนดมาตรฐาน และพัฒนาคุณภาพผู้ค้าเงิน จะไม่ได้เป็นกฎหมายกำหนด แต่จะเป็นมาตรฐานให้ผู้ค้าเงินทุกคนปฎิบัติเหมือนกัน
ส่วนกรณีร้านซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Money Exchange) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ นั้น นางสาววชิรา กล่าวว่า อยู่ภายใต้การดูแลของ ธปท. โดยมีการกำหนดให้ร้านซื้อขายเงินตราต่างประเทศต้องรายงานปริมาณธุรกรรมต่อ ธปท. ทุกเดือน และกรณีที่มีการซื้อขายเงินตราต่างประเทศมูลค่าเกิน 2 ล้านบาทต่อราย ต้องรายงานข้อมูลให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.ด้วย