xs
xsm
sm
md
lg

เดินหน้าติดตั้งเครื่องรูดบัตรเดบิตรองรับ E-Payment ลดการใช้เงินสด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


คลังเดินหน้าติดตั้งเครื่องรูดบัตรเดบิต รองรับ E-Payment เผยใน 1-2 สัปดาห์ สรุปรายชื่อเอกชนผู้ให้บริการเครื่อง EDC ย้ำค่าธรรมเนียมรูดบัตรไม่ถึงบาท คลังเตรียมแจกบัตรรักษาพยาบาลข้าราชการ ครอบครัว คุมเข้มการรักษาเบิกโดยตรงกับโรงพยาบาล

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างการร่วมเปิดตัวการใช้ระบบซัมซุงเพย์ ผ่านแอปพลิเคชั่นว่า เอกชนให้ความสนใจนโยบายรัฐเพื่อลดการใช้เงินสดในระบบ ขณะนี้รัฐบาลต้องการผลักดันประเทศไทยเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสด จึงพัฒนาระบบ E-Payment รองรับการใช้เงินสดผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการซื้อสินค้าและบริการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกบริษัทเอกชน 2 ราย เพื่อให้บริการติดตั้งเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) คาดว่าได้ผลสรุปรายชื่อผ่านการคัดเลือกภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ National E-Payment โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในครั้งต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้ระบบ E-Payment ลดการใช้เงินสด เตรียมให้เอกชนผู้ให้บริการติดตั้งเครื่อง EDC ให้กับร้านค้าทุกแห่งทั่วประเทศเฟสแรกกว่า 500,000 เครื่อง ภายใน 1 ปี อนาคตร้านค้าทุกประเภทควรได้รับการติดตั้งเพื่อรับชำระเงิน แม้กระทั่งร้านก๋วยเตี๋ยว แท็กซี่ ร้านค้าทั่วไป เนื่องจากต้องการให้คิดค่าธรรมเนียมการซื้อสินค้าไม่ถึง 1 บาทต่อรายการ เพื่อดึงดูดให้ประชาชนใช้ระบบพร้อมเพย์ นอกจากนี้ เมื่อรัฐบาลลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรับสวัสดิการแห่งรัฐ จะสามารถนำบัตรดังกล่าวมาใช้บริการผ่านเครื่อง EDC ได้ เนื่องจากรัฐบาลพร้อมโอนเงินเข้าบัตรสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคาร อีกทั้งต้องการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารสาธารณูปโภคต้องติดตั้งเครื่อง EDC ครบทุกแห่ง และใช้บัตรดังกล่าวบริการสาธารณะ และเมื่อสังคมงดใช้เงินสดจะลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น การฟอกเงินได้สูงมาก เนื่องจากการโอนเงินมีใบเสร็จ และหลักฐาน

นายอภิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาการออกบัตรสำหรับการรักษาพยาบาลโรงพยาบาลของรัฐให้กับข้าราชการ และครอบครัว ประมาณ 5 ล้านราย เมื่อเจ็บป่วยสามารถรูดจ่ายค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลสังกัด เพื่อป้องกันการรั่วไหลของเงินค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ จากปัญหาการเวียนเบิกยา และเงินรั่วไหลรูปแบบต่างๆ คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ปี 2560 กรมบัญชีกลางจะเริ่มออกบัตรให้ราชการ ​ยอมรับว่าทั้งหมดเป็นแนวคิดการศึกษา ส่วนแนวทางการให้บริษัทประกันเอกชนบริหารดูแลค่ารักษาพยาบาลยังดำเนินการศึกษาด้วยเช่นกัน เมื่อผลการศึกษาได้ข้อสรุป จะประเมินผลระหว่างการใช้บัตรเบิกเงินรักษาพยาบาล กับใช้บริษัทเอกชนดำเนินการแบบใด จะช่วยลดการรั่วไหลของเงินงบประมาณ
กำลังโหลดความคิดเห็น