นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) กล่าวว่า ธนาคารได้ร่วมกับ บมจ.โตโย บิซิเนส เซอร์วิส ได้ร่วมแถลงข่าวการสนับสนุนบริการทางการเงินแก่นักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยธนาคารจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการชำระเงินอย่างครบวงจรให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกของ บมจ.โตโยฯ ซึ่งมีหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารทะเลแปรรูป ผู้จำหน่ายเครื่องมือและเครื่องจักร ผู้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ และธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โดยในระยะแรกธนาคารให้บริการรับ-จ่ายเงิน และบริการทางการเงินต่างประเทศ ผ่าน Internet Banking และ Mobile Banking
นอกจากนี้ ในระยะต่อไปธนาคารจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้ตรงตามความต้องการ และสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม โดยจะสนับสนุนสินเชื่ออัตราพิเศษ เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับลูกค้า และต่อยอดสู่การสนับสนุนสินเชื่อทุกขั้นตอนการทำธุรกิจ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้ทั้งผู้ผลิต และตัวแทนจัดจำหน่าย
ทั้งนี้ บมจ.โตโย บิซิเนส เซอร์วิส เป็นบริษัทที่ปรึกษาลูกค้าญี่ปุ่นด้านการตลาด กฎหมาย การเงิน การลงทุน มาเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี เปิดตลาดการให้บริการทางการเงินแก่นักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการค้า และการลงทุนระหว่างประเทศ โดยปัจจุบัน นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนสูงกว่า 5,000 บริษัท ซึ่งมีความต้องการบริการทางการเงินหลากหลายรูปแบบ
“การให้บริการของธนาคารนั้น ในเบื้องต้นก็จะเน้นการบริการด้านธุรกรรมทางการเงินให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นเข้าถึงบริการได้ง่ายด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วน และสาขาที่ครอบคลุม รวมถึงบริการจับคู่ธุรกิจที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ และการให้บริการด้านสินเชื่อเมื่อลูกค้าต้องการเงินทุนเพิ่มเติม โดยเป้าหมายของธนาคารนั้น จะเริ่มจากกลุ่มสมาชิกของโตโย บิซิเนส เซอร์วิส ที่มีอยู่ 800-1,000 ราย รวมถึงบริษัทญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในไทยที่มีอยู่ประมาณ 5,000 ราย ซึ่งธนาคารตั้งเป้ามีลูกค้าจากกลุ่มนี้ 20%ใน 3 ปี”
นายทรงพล กล่าวอีกว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือว่าก้าวแรกของธนาคารสำหรับกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่เราค่อนข้างจะเปิดกว้างต่อทุกธุรกิจ และมีสาขาการบริการที่ครอบคลุม จึงเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ของนักลงทุนญี่ปุ่นได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ ในระยะต่อไปธนาคารจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้ตรงตามความต้องการ และสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม โดยจะสนับสนุนสินเชื่ออัตราพิเศษ เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับลูกค้า และต่อยอดสู่การสนับสนุนสินเชื่อทุกขั้นตอนการทำธุรกิจ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้ทั้งผู้ผลิต และตัวแทนจัดจำหน่าย
ทั้งนี้ บมจ.โตโย บิซิเนส เซอร์วิส เป็นบริษัทที่ปรึกษาลูกค้าญี่ปุ่นด้านการตลาด กฎหมาย การเงิน การลงทุน มาเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี เปิดตลาดการให้บริการทางการเงินแก่นักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการค้า และการลงทุนระหว่างประเทศ โดยปัจจุบัน นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนสูงกว่า 5,000 บริษัท ซึ่งมีความต้องการบริการทางการเงินหลากหลายรูปแบบ
“การให้บริการของธนาคารนั้น ในเบื้องต้นก็จะเน้นการบริการด้านธุรกรรมทางการเงินให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นเข้าถึงบริการได้ง่ายด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วน และสาขาที่ครอบคลุม รวมถึงบริการจับคู่ธุรกิจที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ และการให้บริการด้านสินเชื่อเมื่อลูกค้าต้องการเงินทุนเพิ่มเติม โดยเป้าหมายของธนาคารนั้น จะเริ่มจากกลุ่มสมาชิกของโตโย บิซิเนส เซอร์วิส ที่มีอยู่ 800-1,000 ราย รวมถึงบริษัทญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในไทยที่มีอยู่ประมาณ 5,000 ราย ซึ่งธนาคารตั้งเป้ามีลูกค้าจากกลุ่มนี้ 20%ใน 3 ปี”
นายทรงพล กล่าวอีกว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือว่าก้าวแรกของธนาคารสำหรับกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่เราค่อนข้างจะเปิดกว้างต่อทุกธุรกิจ และมีสาขาการบริการที่ครอบคลุม จึงเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ของนักลงทุนญี่ปุ่นได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้