“คลัง” เดินหน้าดันกฎหมายภาษีที่ดิน คาดใช้ทันปี 2561 ด้านธนารักษ์เร่งประเมินราคาที่ดินรับลูกกฎหมาย
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งที่ผ่านมา มีความเห็นแตกต่างจากร่างที่กระทรวงการคลังเสนอไปให้พิจารณา อย่างไรก็ตาม ในสาระสำคัญกระทรวงการคลังยังยืนยันตามร่างเดิม แต่บางรายละเอียดก็เห็นตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม
“ตอนนี้กระทรวงการคลังก็เร่งพิจารณาร่างกฎหมายกับคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบอีกครั้งให้เร็วที่สุด จะได้ส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะเริ่มใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1 ม.ค.2561 อย่างแน่นอน” นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ก็ออกมายืนยันว่า ในปีนี้กระทรวงการคลังจะผลักดันร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เข้าสู่การพิจารณา สนช. เพื่อให้กฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2561 ไม่มีการล้มกฎหมายนี้อย่างที่หลายฝ่ายกังวล เพราะกฎหมายนี้เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีมากขึ้น ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เพราะการเก็บภาษีจะมีความชัดเจนว่า พื้นที่เท่าไรเสียภาษีในอัตราเท่าไร ลดการลดการทุจริตคอร์รัปชั่น
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยืนยันการกำหนดเพดานเก็บภาษีที่ดินมี 4 แบบ คือ ที่ดินเพื่อการเกษตร ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ และที่ดินรกร้างว่างเปล่า เพื่อให้เกิดกระตุ้นให้การใช้ที่ดิน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ต้องการให้มีกำหนดเพดานเก็บภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่า โดยให้นำไปรวมกับเก็บภาษีที่ดินในแบบต่างๆ ที่เหลือ ซึ่งกระทรวงการคลังไม่เห็นด้วย
“การเริ่มต้นการเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง ในส่วนภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรจะมีการเก็บต่ำมาก โดยภาษีที่ดินเพื่ออยู่อาศัยกำหนดบ้านหลังแรงไม่เกิน 50 ล้านบาท ไม่ต้องเสีย ทำให้คนส่วนใหญ่ 90% ไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนภาษีที่ดินว่างเปล่า หากไม่ใช้ก็ต้องเสียมาก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์มากที่สุด”
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในปี 2560 กรมธนารักษ์จะประเมินราคาที่ดินเป็นรายแปลงครบ 32 ล้านแปลง ซึ่งจะทันกับกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ในปี 2561
รายงานแจ้งว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ครม.มีมติเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2559 ซึ่งจะนำมาบังคับใช้แทน พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 และ พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ก่อนหน้านี้ นายอภิศักดิ์ ในฐานะ รมว.คลัง มั่นใจว่า จะมีผลบังคับใช้ทันในปีนี้ แต่เจออุปสรรค โดยล่าสุด คณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งที่ผ่านมา มีความเห็นแตกต่างจากร่างที่กระทรวงการคลังเสนอไปให้พิจารณา ขณะที่กระทรวงการคลังจึงคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า