นานๆที จะได้ยินข่าวดีที่สร้างสรรค์จากตลาดหุ้นสักครั้ง ข่าวดีที่ว่าคือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำลังทบทวนหลักเกณฑ์การรับบริษัทเข้าจดทะเบียน เพื่อป้องกันไม่ให้หุ้นเน่าๆเข้ามาสร้างความเสียหายกับนักลงทุน
การผ่าตัดใหญ่ระบบคัดกรองหุ้นใหม่ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งให้ความสำคัญการเลือกเฟ้นบริษัทที่มีคุณภาพ ผลประกอบการดีและมั่นคงนั้น เกิดขึ้นหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ตั้งคำถามตลาดหลักทรัพย์ว่า ทำไมจึงปล่อยให้หุ้นไม่ดีเข้ามาซื้อขาย
เพราะทุกวันนี้ ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยหุ้นขยะ หุ้นเน่าๆ ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง ฐานะการเงินง่อนแง่ แต่อาศัยสร้างภาพลวงตา หลอกต้มตุ๋นนักลงทุน
การรับหุ้นเน่าๆ นำมาให้นักลงทุนซื้อขายนั้น ถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานนับสิบปีแล้ว เพราะตลาดหลักทรัพย์ยึดปรัชญาผิดๆ มุ่งแต่เพิ่มปริมาณบริษัทจดทะเบียนใหม่ เน้นขยายมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมหรือมาร์เก็ตแคปให้เติบโต โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพบริษัทสักเท่าไหร่
นโยบายที่เน้นเชิงปริมาณ มุ่งแต่การสร้างตัวเลข ไม่ตระหนักผลกระทบที่ตามมา มองข้ามสำนึกความรับผิดชอบการปกป้องนักลงทุน หุ้นเน่าๆจึงตบเท้าเข้าปล้นเงินในตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก
บริษัทที่ฐานะการเงินไม่แข็งแรง ผู้บริหารบริษัทที่มีพฤติกรรมขี้โกง สามารถแต่งบัญชีงบการเงิน ปิดบังอำพรางผลประกอบการที่แท้จริง ตบตาคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ทั้งชุด จนได้รับอนุมัติเข้ามาก่ออาชญากรรมในตลาดหุ้น
บริษัทที่ปรึกษาการเงินบางแห่ง ทำหน้าที่ในการ”ฟอก”บริษัทเน่าๆ แต่งตัวจนเข้าตลาดหุ้นได้สำเร็จ
หุ้นชั้นเลว ถูกปล่อยให้หลุดเข้ามากอบโกยเงินอย่างตระกระตระกราม ไม่มีความเมตตาปราณี ไม่มีความรู้สึกเวทนานักลงทุนรายย่อยที่ต้องสิ้นเนิ้อประดาตัว
หุ้นใหม่บางตัวเข้ามาซื้อขายไม่กี่เดือน ผู้บริหารบริษัทพากันเทขายหุ้นทิ้งจนเกลี้ยง ก่อนลอยลอยแพกิจการ ทิ้งให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยต้องรับกรรม
บริษัทจดทะเบียนบางแห่ง เมื่อเข้าตลาดหุ้นได้ จะเปิดยุทธการปั่นทันที โดยผู้บริหารบริษัทคุยโม้อวดสรรพคุณกิจการอย่างเกินจริง ปล่อยข่าวตลอดเวลา มีกิจกรรมกระตุ้นราคาหุ้นต่อเนื่อง
ประเพณีการเปิดแชมเปญฉลองต้อนรับหุ้นใหม่ที่ประเดิมเข้าซื้อขายวันแรกของตลาดหลักทรัพย์ บางครั้งกลายเป็นพิธีฉลองความสำเร็จของบริษัทเน่าๆ ที่สามารถแต่งตัวเข้ามาปล้นตลาดหุ้นได้
ปัจจุบันมีหุ้นจำนวนมากที่มีสภาพตายซาก ผลประกอบการขาดทุนติดต่อหลายปี แต่หุ้นเหล่านี้ยังถูกปล่อยให้อาละวาด โดยเป็นแหล่งซ่องสุมของแก๊งปั่นหุ้น วนเวียนสร้างข่าว สร้างภาพลวงตา สร้างโครงการขายฝัน เพื่อสูบเงินนักลงทุน
หุ้นเน่าตัวไหนที่ปั่นกันจนช้ำ นักลงทุนรู้ทันลูกเล่นของ”เจ้ามือ” จะมีการเปลี่ยนเจ้ามือใหม่ เปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ และหามือปืนรับจ้างเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทชุดใหม่ รวมทั้งจเปลี่ยนชื่อบริษัท เพื่อกลบเกลื่อนประวัติเดิม ก่อนผู้บริหารชุดใหม่จะแต่ง”นวนิยาย”มาหลอกรายย่อยต่อไป
ประชาชนผู้ลงทุนต้องสูญเสียกับหุ้นเน่าๆนานนับสิบปี รวมจำนวนน่าจะหลายแสนคน และอีกหลายแสนที่ยังถือหุ้นเน่าๆอยู่ในมือ เพราะทำใจตัดขายขาดทุนไม่ไหว
การที่ตลาดหลักทรัพย์หันมาใส่ใจ กลั่นกรองคุณภาพหุ้นใหม่ ไม่ก้มหน้าก้มตามุ่งการเติบโตเชิงปริมาณ เป็นเรื่องที่ต้องร่วมกันอนุโมทนา เพราะถ้าไม่ปล่อยให้หุ้นชั้นเลวหลุดเข้าตลาด นักลงทุนดีๆจะไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ
ภาพลักษณ์ตลาดหุ้นที่ถูกสังคมมองเป็นบ่อนพนัน เพราะปล่อยให้หุ้นเน่าๆเข้ามาก่ออาชญากรรม เล่นกล ปฏิบัติการล่อลวง จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ตลาดหุ้นได้ จึงต้องสกัดไม่ให้หุ้นชั้นเลว ต้องไม่เปิดโอกาสให้แก๊ง 18มงกุฎใช้ตลาดหุ้นเป็นแหล่งทำมาหากิน
ยุทธการปิดทางหุ้นเน่า ไม่ให้มีโอกาสเข้ามาสร้างความเสียหายในตลาดหุ้นนั้น เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่สนับสนุนเต็มที่ แต่สิ่งคงถามกันต่อคือ
หุ้นเน่าๆ หุ้นขั้นเลว หุ้นที่เป็นแหล่งซ่องสุมของแก๊งปั่นหุ้น และยังปฏิบัติการปล้นเงินนักลงทุนอยู่ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์จะทำอย่างไร
จะปล่อยให้หุ้นชั้นเลวลอยนวลก่ออาชญากรรมต่อไปหรือ