xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ ประสานเสียง SET ปีนี้แตะ 1,650 จุด ฟันธงนโยบาย “ทรัมป์” ทำเม็ดเงินลงทุนผันผวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โบรกฯ ประสานเสียงฟันธงเงินทุนไหลเข้า-ออก ยังมีแนวโน้มผันผวนจากนโยบาย “ทรัมป์” แม้เชื่อว่า จะทำให้ ศก.โลกฟื้นตัว และไทยได้ผลบวกจากภาคการส่งออกที่น่าจะดีขึ้น พร้อมมองเป้าดัชนีหุ้นไทยที่ 1,650 จุด และน่าจะดีต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ กล่าวในงานสัมมนา “ทิศทางตลาดหุ้น หลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ” โดยระบุว่า หัวใจการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือ การกระตุ้นโครงสร้างพื้นฐาน และการลดภาษีนิติบุคคล จากร้อยละ 35 เหลือ 15 ซึ่งจะกระตุ้นให้เอกชนลงทุนตาม รวมทั้งการลดเลิกกฎเกณฑ์ที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่เติบโต ซึ่งทั้งหมดเน้นการเติบโตเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นหลัก

ดังนั้น เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวจะส่งผลดีให้เศรษฐกิจโลกเติบโตดี และเศรษฐกิจไทยจะได้ผลบวกตามไปด้วย และเชื่อว่าสินค้าส่งออกของไทยจะไม่ถูกกีดกันทางการค้าจากสหรัฐอเมริกา เพราะไม่ใช่สินค้าที่มีมูลค่าสูงที่สหรัฐฯ ต้องการดึงกลับไปลงทุน

ส่วนกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของต่างชาติ คาดว่าจะยังคงไหลเข้า-ออกระยะหนึ่งมีความผันผวนต่อเนื่อง แต่น้อยกว่าปี 2559 เพราะยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างประเทศ โดยคาดว่า ตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวประมาณ 200 จุด ดัชนีเหมาะสมของปีนี้ที่ 1,650 จุด และคาดว่า ตลาดหุ้นไทยยังไปต่อได้อีก 2-3 ปี เพราะกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังขยายตัวได้ดี

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากนี้กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายจะเคลื่อนไหว 2 ทิศทาง ทั้งเงินไหลเข้า และไหลออก ขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ครึ่งปีแรกน่าจะยังเห็นการไหลเข้าของเงินทุนให้นักลงทุนติดตามจากดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก ประเมินดัชนีระดับเหมาะสมปีนี้ที่ 1,650 จุด กำไรสุทธิต่อหุ้นที่ร้อยละ 12 โดยแนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนหุ้นที่มีการเติบโตสูงในกลุ่มพลังงาน ตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น และธนาคารพาณิชย์ที่มีปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล จะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย กล่าวว่า กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายครึ่งปีหลังจะมีความชัดเจนมากขึ้น โดยขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากดอกเบี้ยปรับขึ้นเร็วจะกระทบเงินทุนไหลออก โดยประเมินแนวรับของดัชนีหุ้นไทยที่ 1,500 จุด ส่วนเป้าหมายดัชนีปีนี้อยู่ที่ 1,690 จุด โดยมีกำไรสุทธิอยู่ร้อยละ 13

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย กล่าวว่า จากนโยบาย “ทรัมป์” หุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์จะได้รับผลบวกจากเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อขาขึ้น ทั้งน้ำมัน ถ่านหิน โรงกลั่น รองลงมา คือ หุ้นสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา น้ำตาล และสินค้าปศุสัตว์ เนื้อไก่ เนื้อหมู กลุ่มเหล็ก ขนส่งทางเรือ ส่วนกลุ่มที่ต้องจับตา และระวัง คือ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศยังฟื้นตัวช้า
กำลังโหลดความคิดเห็น