“นายทวิช เตชะนาวากุล” เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ IFEC ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดแผนขับเคลื่อนธุรกิจ ฟื้นความเชื่อมั่นเจ้าหนี้-ผู้ถือหุ้น เตรียมตั้งบอร์ดบริหารใหม่ พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบผู้บริหารชุดเดิมทั้งหมด มั่นใจสถานะการเงิน IFEC มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน มีศักยภาพที่จะเคลียร์หนี้สถาบันการเงินได้ตามแผน-เดินหน้าขยายธุรกิจ
นายทวิช เตชะนาวากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอินดัสเทรียล เอสเตท เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) ได้เปิดแถลงข่าว “แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจ IFEC และแผนกู้วิกฤตความเชื่อมั่นเจ้าหนี้ และผู้ถือหุ้นรายย่อย” โดยเรียกร้องให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 ในวันที่ 25 มกราคม 2560 ที่เตรียมจัดขึ้นที่สโมสรกองทัพบก ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบริษัทฯ เพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤตความเชื่อมั่นเจ้าหนี้ และผู้ถือหุ้น หลังจากบริษัทฯ ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอี จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สั่งพักการซื้อขายหุ้น ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยเป็นอย่างมาก ขณะที่การผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอี ก็ได้สร้างความเสียหายในเชิงธุรกิจ เพราะได้ส่งผลกระทบถึงความเชื่อมั่นในเครดิตของบริษัทฯ
“ผมอยากเชิญชวนให้นักลงทุนรายย่อยเข้าร่วมประชุมวิสามัญในครั้งนี้ พร้อมกับการใช้สิทธิโหวตให้คณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหาร ซึ่งผมได้ทาบทามผู้บริหารมืออาชีพ เข้ามานั่งในตำแหน่งคณะกรรมการ เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯ เพราะผมมีความเชื่อมั่นในธุรกิจของ IFEC เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับหนี้สินที่มีเพียง 8,000 กว่าล้านบาท เท่านั้น จึงมั่นใจว่า จะสามารถเจรจากับเจ้าหนี้ และชำระหนี้คืนให้กับเจ้าหนี้ได้ตามแผน พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต ” นายทวิช กล่าว
ผู้ถือหุ้นใหญ่ IFEC กล่าวอีกว่า สาเหตุที่เข้ามาลงทุนใน IFEC เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ IFEC ทั้งในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งมีการจ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 40 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 20 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกัน ยังมีกิจการโรงแรมดาราเทวี ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท โดยทีมผู้บริหารชุดใหม่พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ ภายหลังได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ อีกทั้งยังเตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมา เพื่อตรวจสอบการบริหารงานของผู้บริหารชุดเดิมทั้งหมด เพื่อความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน และผู้ถือหุ้น เพราะต้องยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลังเกิดความขัดแย้งระหว่างทีมผู้บริหารชุดปัจจุบัน และอดีตผู้บริหาร ทำให้มีความสับสนในข้อมูล ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต จึงมีความจำเป็นต้องเร่งสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้กับ IFEC ที่พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้การบริหารงานของทีมผู้บริหารมืออาชีพชุดใหม่ที่ตั้งใจเข้ามาพลิกฟื้นธุรกิจ IFEC อย่างเป็นรูปธรรม