บมจ.เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ แจงยิบรายละเอียดการออกตั๋วสัญญาแลกมูลค่า 350 ล้านบาท หลังเบี้ยวชำระหนี้ตามคำสั่งของตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเร่งดำเนินการแก้ไขงบการเงินให้ถูกต้อง และแต่งตั้งผู้สอบบัญชีพิเศษ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้
นายธีราสิทธิ์ แสงเงิน กรรมการบริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีคาสั่งให้บริษัทชี้แจงข้อมูลการออกตั๋วแลกเงิน (B/E) 350 ล้านบาท (19.31% ของสินทรัพย์รวม ณ 30 กันยายน 2559 โดยประมาณ) ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2558 แต่ไม่ปรากฏการบันทึกบัญชีในงบการเงิน ส่งผลให้งบการเงินของบริษัทฯ ไม่ถูกต้อง และอาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงิน และผลการดาเนินงานของบริษัทฯ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย “SP” (Suspension) เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2560 ที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 บริษัทฯ ได้ผิดนัดชาระหนี้ตั๋วแลกเงิน (B/E) ที่ออกให้แก่กองทุนเปิดโซลาริสพริวิลเลจ 3 เอ็ม 4 (S-PFI 3M4) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนโซลาริส จำกัด 130 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดชำระเงินวันที่ 15 ธันวาคม 2559 และผิดนัดชาระหนี้ในวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ต่อมาวันที่ 30 ธันวาคม 2559 บริษัทฯ ได้แจ้งเพิ่มเติมบริษัทเป็นหนี้ตั๋ว B/E ทั้งสิ้น 5 ฉบับ รวม 350 ล้านบาท (19.31% ของสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 โดยประมาณ) โดยคณะกรรมการบริษัทชุดปัจจุบันตรวจสอบพบว่า มีการออกตั๋ว B/E ทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 4/2558 แต่ไม่ปรากฏในงบการเงิน และอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขงบการเงินไตรมาสที่ 4/2558-ไตรมาสที่ 3/2559 ให้ถูกต้อง
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้บริษัทชี้แจงดังต่อไปนี้ 1.ผลกระทบต่อฐานะการเงิน และผลการดาเนินงานของบริษัทนับตั้งแต่มีการออกตั๋วบีอี ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขรายงานการสอบทานข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต บริษัทฯ และผู้สอบบัญชีรับอนุญาต กำลังดาเนินการตรวจสอบ และแก้ไข โดยคาดว่า งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 ที่ได้รับการแก้ไขแล้ว อาจมีหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้น และหนี้สินรวมจะเพิ่มขึ้น 350 ล้านบาท โดยประมาณ และคาดว่า น่าจะมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 350 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายละเอียดดังกล่าวอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบ และยืนยันจากผู้สอบบัญชีฯ
ประเด็นที่ 2.ตามที่บริษัทแจ้งข้อมูลว่า มีการออกตั๋วในช่วงไตรมาสที่ 4/2558 ขณะที่บริษัทระบุวันที่หน้าตั๋ว B/E เป็นช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ปี 2559 จึงขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลดังนี้
2.1 วันที่ออกตั๋วครั้งแรก วันที่ครบอายุตั๋ว วันที่มีการต่อตั๋ว ผู้ที่อนุมัติให้มีการต่อตั๋วในแต่ละครั้ง ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการในการต่อตั๋วบีอี หรือไม่ อย่างไร รวมทั้งช่วงเวลาในการต่อตั๋วแต่ละครั้งเป็นความรับผิดชอบของกรรมการบริษัท และคณะกรรมการบริหารชุดใด
บริษัทฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลการออกตั๋วแลกเงินของบริษัทฯ กับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 พบบริษัทฯ ได้ทยอยออกตราสารหนี้ประเภทตั๋วแลกเงิน โดยกรรมการผู้ลงลายมือชื่อ คือ นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร นายสรรชัย อินทรอักษร และนายธีราสิทธิ์ แสงเงิน ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/25581 ที่อนุมัติให้ระดมทุนโดยวิธีการออกตราสารหนี้ประเภทตั๋วแลกเงินระยะสั้น (Bill of Exchange) เสนอขายบุคคลในวงจำกัดไม่เกิน 10 ฉบับ ณ ขณะใดขณะหนึ่งใน จำนวนต้นเงินของตั๋วแลกเงินจะมีมูลค่าไม่เกิน 900 ล้านบาท โดยจะออกเสนอขายครั้งเดียว หรือหลายคราวก็ได้ เพื่อใช้ดำเนินงาน รวมถึงเงินทุนหมุนเวียน เงินลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ และ/หรือชำระหนี้โดยให้เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัทฯ ตลอดจนระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ขณะที่บริษัทฯ ออกตั๋วแลกเงินเสนอขายให้กับกองทุนเปิดของบริษัทจัดการ คณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วย 1.พลเอกไชยเดช บุญรอด ประธานกรรมการบริษัท และกรรมการอิสระ 2.รศ.ดร.สวงค์ เศวตวัฒนา กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ 3.นายสุเมธ เลิศตันติสุนทร กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ 4.นางสาววิไลพร พันธ์ศรีมังกร กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ 5.นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร กรรมการ 6.นายสรรชัย อินทรอักษร กรรมการ 7.พลโทสมบูรณ์ ศรีมณฑา กรรมการ 8.นายมณเฑียร อินทร์น้อย กรรมการ และ 9.นายชัยวัฒน์ แหยมเกตุ กรรมการ
ส่วนช่วงเวลาที่บริษัทฯ ทำการออกตั๋วแลกเงินเสนอขายให้กับกองทุนเปิดของบริษัทจัดการ คณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย 1.นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร 2.นายสรรชัย อินทรอักษร และ 3.นายมณเฑียร อินทร์น้อย
2.2 เหตุใดบริษัทจึงจะแก้ไขงบการเงินตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2558 เป็นต้นไป เนื่องจากบริษัทฯ และผู้สอบบัญชีฯ จะร่วมดำเนินการแก้ไขงบการเงินตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2558 เป็นต้นไป เนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบพบบริษัทฯ ได้ทำการออกตั๋วแลกเงินฉบับแรกที่ไม่ปรากฏในรายการทางบันทึกบัญชีของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสที่ 4/2558 เป็นต้นไป ตามข้อมูลที่ปรากฏในสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
สำหรับประเด็นที่ 3.กรอบเวลาจัดทางบการเงินฉบับแก้ไข และตรวจสอบกระบวนการออกตั๋วบีอี และการใช้เงินที่ได้รับของอดีตกรรมการบริหารว่า เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินธุรกิจของบริษัทหรือไม่แล้วเสร็จ บริษัทฯ และผู้สอบบัญชีฯ จะร่วมดำเนินการจัดทางบการเงินฉบับแก้ไข และตรวจสอบกระบวนการออกตั๋วบีอี และการใช้เงินที่ได้รับของอดีตกรรมการบริหาร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 นอกจากนี้ บริษัทฯ จะทำการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีพิเศษ (Special Auditor) เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวไปพร้อมกัน
ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้า และ/หรือพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าว บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมให้ท่านผู้ถือหุ้นทราบต่อไป
นายธีราสิทธิ์ แสงเงิน กรรมการบริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีคาสั่งให้บริษัทชี้แจงข้อมูลการออกตั๋วแลกเงิน (B/E) 350 ล้านบาท (19.31% ของสินทรัพย์รวม ณ 30 กันยายน 2559 โดยประมาณ) ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2558 แต่ไม่ปรากฏการบันทึกบัญชีในงบการเงิน ส่งผลให้งบการเงินของบริษัทฯ ไม่ถูกต้อง และอาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงิน และผลการดาเนินงานของบริษัทฯ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย “SP” (Suspension) เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2560 ที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 บริษัทฯ ได้ผิดนัดชาระหนี้ตั๋วแลกเงิน (B/E) ที่ออกให้แก่กองทุนเปิดโซลาริสพริวิลเลจ 3 เอ็ม 4 (S-PFI 3M4) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนโซลาริส จำกัด 130 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดชำระเงินวันที่ 15 ธันวาคม 2559 และผิดนัดชาระหนี้ในวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ต่อมาวันที่ 30 ธันวาคม 2559 บริษัทฯ ได้แจ้งเพิ่มเติมบริษัทเป็นหนี้ตั๋ว B/E ทั้งสิ้น 5 ฉบับ รวม 350 ล้านบาท (19.31% ของสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 โดยประมาณ) โดยคณะกรรมการบริษัทชุดปัจจุบันตรวจสอบพบว่า มีการออกตั๋ว B/E ทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 4/2558 แต่ไม่ปรากฏในงบการเงิน และอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขงบการเงินไตรมาสที่ 4/2558-ไตรมาสที่ 3/2559 ให้ถูกต้อง
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้บริษัทชี้แจงดังต่อไปนี้ 1.ผลกระทบต่อฐานะการเงิน และผลการดาเนินงานของบริษัทนับตั้งแต่มีการออกตั๋วบีอี ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขรายงานการสอบทานข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต บริษัทฯ และผู้สอบบัญชีรับอนุญาต กำลังดาเนินการตรวจสอบ และแก้ไข โดยคาดว่า งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 ที่ได้รับการแก้ไขแล้ว อาจมีหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้น และหนี้สินรวมจะเพิ่มขึ้น 350 ล้านบาท โดยประมาณ และคาดว่า น่าจะมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 350 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายละเอียดดังกล่าวอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบ และยืนยันจากผู้สอบบัญชีฯ
ประเด็นที่ 2.ตามที่บริษัทแจ้งข้อมูลว่า มีการออกตั๋วในช่วงไตรมาสที่ 4/2558 ขณะที่บริษัทระบุวันที่หน้าตั๋ว B/E เป็นช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ปี 2559 จึงขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลดังนี้
2.1 วันที่ออกตั๋วครั้งแรก วันที่ครบอายุตั๋ว วันที่มีการต่อตั๋ว ผู้ที่อนุมัติให้มีการต่อตั๋วในแต่ละครั้ง ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการในการต่อตั๋วบีอี หรือไม่ อย่างไร รวมทั้งช่วงเวลาในการต่อตั๋วแต่ละครั้งเป็นความรับผิดชอบของกรรมการบริษัท และคณะกรรมการบริหารชุดใด
บริษัทฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลการออกตั๋วแลกเงินของบริษัทฯ กับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 พบบริษัทฯ ได้ทยอยออกตราสารหนี้ประเภทตั๋วแลกเงิน โดยกรรมการผู้ลงลายมือชื่อ คือ นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร นายสรรชัย อินทรอักษร และนายธีราสิทธิ์ แสงเงิน ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/25581 ที่อนุมัติให้ระดมทุนโดยวิธีการออกตราสารหนี้ประเภทตั๋วแลกเงินระยะสั้น (Bill of Exchange) เสนอขายบุคคลในวงจำกัดไม่เกิน 10 ฉบับ ณ ขณะใดขณะหนึ่งใน จำนวนต้นเงินของตั๋วแลกเงินจะมีมูลค่าไม่เกิน 900 ล้านบาท โดยจะออกเสนอขายครั้งเดียว หรือหลายคราวก็ได้ เพื่อใช้ดำเนินงาน รวมถึงเงินทุนหมุนเวียน เงินลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ และ/หรือชำระหนี้โดยให้เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัทฯ ตลอดจนระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ขณะที่บริษัทฯ ออกตั๋วแลกเงินเสนอขายให้กับกองทุนเปิดของบริษัทจัดการ คณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วย 1.พลเอกไชยเดช บุญรอด ประธานกรรมการบริษัท และกรรมการอิสระ 2.รศ.ดร.สวงค์ เศวตวัฒนา กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ 3.นายสุเมธ เลิศตันติสุนทร กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ 4.นางสาววิไลพร พันธ์ศรีมังกร กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ 5.นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร กรรมการ 6.นายสรรชัย อินทรอักษร กรรมการ 7.พลโทสมบูรณ์ ศรีมณฑา กรรมการ 8.นายมณเฑียร อินทร์น้อย กรรมการ และ 9.นายชัยวัฒน์ แหยมเกตุ กรรมการ
ส่วนช่วงเวลาที่บริษัทฯ ทำการออกตั๋วแลกเงินเสนอขายให้กับกองทุนเปิดของบริษัทจัดการ คณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย 1.นายภัทรภพ อิทธิสัญญากร 2.นายสรรชัย อินทรอักษร และ 3.นายมณเฑียร อินทร์น้อย
2.2 เหตุใดบริษัทจึงจะแก้ไขงบการเงินตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2558 เป็นต้นไป เนื่องจากบริษัทฯ และผู้สอบบัญชีฯ จะร่วมดำเนินการแก้ไขงบการเงินตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2558 เป็นต้นไป เนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบพบบริษัทฯ ได้ทำการออกตั๋วแลกเงินฉบับแรกที่ไม่ปรากฏในรายการทางบันทึกบัญชีของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสที่ 4/2558 เป็นต้นไป ตามข้อมูลที่ปรากฏในสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
สำหรับประเด็นที่ 3.กรอบเวลาจัดทางบการเงินฉบับแก้ไข และตรวจสอบกระบวนการออกตั๋วบีอี และการใช้เงินที่ได้รับของอดีตกรรมการบริหารว่า เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินธุรกิจของบริษัทหรือไม่แล้วเสร็จ บริษัทฯ และผู้สอบบัญชีฯ จะร่วมดำเนินการจัดทางบการเงินฉบับแก้ไข และตรวจสอบกระบวนการออกตั๋วบีอี และการใช้เงินที่ได้รับของอดีตกรรมการบริหาร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 นอกจากนี้ บริษัทฯ จะทำการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีพิเศษ (Special Auditor) เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวไปพร้อมกัน
ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้า และ/หรือพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าว บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมให้ท่านผู้ถือหุ้นทราบต่อไป