ไอเอฟอีซี ฟ้อง “สิทธิชัย” และพวก ชดใช้ 56 ล้านบาท กรณีปิดบังข้อมูลบอร์ด ในการซื้ออาคารสำนักงาน ชี้มีพฤติกรรมอำพลาง ก่อนทำสัญญา 7 วันมีการโอนอาคารให้นายหน้าในราคาไม่ถึง 10 ล้าน แต่ขายให้กับไอเอฟอีซี 60 ล้านบาท
รายงานจากบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้ประทับรับฟ้องคดีที่บริษัทไอเอฟอีซี ฟ้องนายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ และพวกอีก 3 คน ในฐานความผิดละเมิดทำให้ไอเอฟอีซี เสียหาย โดยไอเอฟอีซี เรียกร้องให้นายสิทธิชัย ต้องชดใช้เงินเป็นมูลค่ากว่า 56 ล้านบาท
สำหรับ สาเหตุการฟ้องครั้งนี้เนื่องจากมีการพบว่า ช่วงที่นายสิทธิชัย ดำรงตำแหน่งบริหารในบริษัท ได้มาเสนอซื้อที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน 7 ชั้น ในซอยโรงพยาบาลพระราม 9 แก่ที่ประชุมบอร์ดบริหาร เมื่อกลางปี 2558 แต่ต่อมาได้ตรวจพบว่าการซื้อขายดังกล่าวมีพฤติกรรมอำพลาง ทำให้บริษัทเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีการตรวจพบว่า ที่ดิน และอาคารดังกล่าวไม่ได้เป็นการซื้อขายโดยตรงจากเจ้าของ ผิดไปจากที่นายสิทธิชัย รายงานกับบอร์ดบริหาร ที่สำคัญพบว่า ก่อนหน้าที่ไอเอฟอีซี ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน และอาคารดังกล่าว ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินในราคาประเมินเพียง 9 ล้านกว่าบาทเท่านั้น แต่หลังจากนั้น เพียง 7 วัน ไอเอฟอีซี กลับซื้อในราคาสูงถึง 60 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และพฤติกรรมต่างๆ ในการสั่งจ่ายเช็คเพื่อการทำสัญญาจะซื้อจะขาย และหลังการโอน พบว่า เส้นทางเงินเกี่ยวพันกับกลุ่มคนที่ตกเป็นจำเลยทั้งสิ้น
คดีดังกล่าวศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 27 มี.ค.ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ บริษัทกำลังจะดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อความโปร่งใสในกรณีอื่นๆ ตามมาอีก ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กลุ่มผู้ถือหุ้น และนักลงทุนในบริษัทไอเอฟอีซี
รายงานจากบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้ประทับรับฟ้องคดีที่บริษัทไอเอฟอีซี ฟ้องนายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ และพวกอีก 3 คน ในฐานความผิดละเมิดทำให้ไอเอฟอีซี เสียหาย โดยไอเอฟอีซี เรียกร้องให้นายสิทธิชัย ต้องชดใช้เงินเป็นมูลค่ากว่า 56 ล้านบาท
สำหรับ สาเหตุการฟ้องครั้งนี้เนื่องจากมีการพบว่า ช่วงที่นายสิทธิชัย ดำรงตำแหน่งบริหารในบริษัท ได้มาเสนอซื้อที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน 7 ชั้น ในซอยโรงพยาบาลพระราม 9 แก่ที่ประชุมบอร์ดบริหาร เมื่อกลางปี 2558 แต่ต่อมาได้ตรวจพบว่าการซื้อขายดังกล่าวมีพฤติกรรมอำพลาง ทำให้บริษัทเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีการตรวจพบว่า ที่ดิน และอาคารดังกล่าวไม่ได้เป็นการซื้อขายโดยตรงจากเจ้าของ ผิดไปจากที่นายสิทธิชัย รายงานกับบอร์ดบริหาร ที่สำคัญพบว่า ก่อนหน้าที่ไอเอฟอีซี ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน และอาคารดังกล่าว ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินในราคาประเมินเพียง 9 ล้านกว่าบาทเท่านั้น แต่หลังจากนั้น เพียง 7 วัน ไอเอฟอีซี กลับซื้อในราคาสูงถึง 60 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และพฤติกรรมต่างๆ ในการสั่งจ่ายเช็คเพื่อการทำสัญญาจะซื้อจะขาย และหลังการโอน พบว่า เส้นทางเงินเกี่ยวพันกับกลุ่มคนที่ตกเป็นจำเลยทั้งสิ้น
คดีดังกล่าวศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 27 มี.ค.ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ บริษัทกำลังจะดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อความโปร่งใสในกรณีอื่นๆ ตามมาอีก ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กลุ่มผู้ถือหุ้น และนักลงทุนในบริษัทไอเอฟอีซี