ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้ในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าประชาชนรวมถึงเศรษฐกิจในหลายพื้นที่ ธนาคารไทยพาณิชย์จึงได้ออกมาตรการพิเศษเพื่อช่วยเหลือลูกค้า และผู้ที่ประสบอุทกภัย เบื้องต้นดำเนินมาตรการพักชำระหนี้สำหรับลูกค้า ทั้งลูกค้าบุคคล และลูกค้าเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการลดดอกเบี้ย และการขยายเวลาผ่อนชำระ สำหรับลูกค้าที่เข้าเกณฑ์ของธนาคารฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ผ่านบัญชีมูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์เพื่อผู้ประสบภัย เลขที่บัญชี 111-3-90911-5 โดยธนาคารฯ จะส่งมอบเงินบริจาคให้แก่มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และธนาคารฯ จะร่วมบริจาคสมทบมูลนิธิฯ อีก 1 ล้านบาท
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “จากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดภาคใต้นั้น ธนาคารฯ ตระหนักถึงความยากลำบากของผู้ที่ประสบภัย โดยได้ออกมาตรการพิเศษเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้า ได้แก่ ลูกค้าสินเชื่อรายย่อย เช่น สินเชื่อเคหะ สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต สินเชื่อธุรกิจรายย่อย (SSME) ธนาคารฯ พิจารณามอบความช่วยเหลือ ได้แก่ 1) พักชำระหนี้เป็นเวลา สูงสุด 3 เดือน 2) ลดดอกเบี้ย 50-100 % แล้วแต่ประเภทของสินเชื่อ 3) ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระตั้งแต่ 2 เดือน ถึงสูงสุดไม่เกิน 5 ปี แล้วแต่ประเภทสินเชื่อ และลงทะเบียนภายในเดือนมิถุนายน 2560
สำหรับลูกค้าธุรกิจผู้ประกอบการ SME ธนาคารฯ มอบความช่วยเหลือให้ทั้งผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางตรง คือ ทรัพย์สินของกิจการได้รับความเสียหาย และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม คือ ทรัพย์สินของกิจการไม่ได้รับความเสียหาย แต่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ผ่านความช่วยเหลือ 5 มาตรการหลัก ได้แก่ 1) การพักชำระทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือน 2) การพักชำระเงินต้นพร้อมขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 24 เดือน 3) ยกเว้นการเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระ สำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถชำระเงินได้ตามกำหนด สูงสุด 30 วัน 4) เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราวสำหรับเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจ สูงสุด 20% ของวงเงินหมุนเวียนเดิม หรือสูงสุด 10 ล้านบาท 5) เพิ่มวงเงินกู้สำหรับปรับปรุง ซ่อมแซม หรือซื้อทดแทนทรัพย์สินของกิจการที่เสียหาย ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี ทั้งนี้ ลูกค้าผู้ประกอบการ SME ได้รับผลกระทบ และเข้าเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2560
สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารฯ จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สอบถาม และให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ทันที ซึ่งพิจารณาตามความเหมาะสมทางธุรกิจแต่ละราย ซึ่งอาจมีการพิจารณาเพิ่มวงเงินพิเศษเพื่อความจำเป็นเร่งด่วน หรือการยืดระยะเวลา หรือปรับจำนวนเงินการชำระหนี้ในช่วงนี้ให้เหมาะสม
สำหรับความช่วยเหลือเพื่อร่วมบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยนั้น ธนาคารฯ ได้เชิญชวนคนไทยร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ ผ่านทางบัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์ เพื่อผู้ประสบภัย” เลขที่บัญชี 111-3-90911-5 สามารถบริจาคผ่านสาขา และเครื่อง ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามเขต รวมถึงผ่านบริการ SCB Easy โดยจะส่งมอบเงินบริจาคให้แก่มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และธนาคารฯ จะร่วมบริจาคสมทบอีก 1 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งโรงครัวประทานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และการประกอบอาหารแจกจ่ายแก่ประชาชนบรรเทาความเดือดร้อนในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังได้จัดเตรียมถุงยังชีพจากเงินบริจาคของประชาชนเบื้องต้น 2,000 ชุด และเรือ โดยร่วมกับกองทัพอากาศ ส่งมอบเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนต่อไป
**กสิกรฯ ออกมาตรการช่วยธุรกิจประสบภัยน้ำท่วม**
ด้าน นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจของธนาคารใน 12 จังหวัด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ และเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกค้าในช่วงประสบอุทกภัย โดยมาตรการการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ ประกอบด้วย การลดยอดผ่อนชำระ หรือพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 12 เดือน รวมถึงการขยายเทอมตั๋วสัญญาใช้เงิน และวงเงินการค้าต่างประเทศ และหากสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ลูกค้าที่ต้องการวงเงินเพื่อซ่อมแซมสถานประกอบการ เครื่องจักร รวมถึงชดเชยสต๊อกสินค้าที่เสียหายจากอุทกภัย ธนาคารจะพิจารณาให้วงเงินกู้โดยพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 6 เดือน และไม่ต้องประเมินราคาหลักประกันใหม่ โดยต้องขอวงเงินภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้
สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในครั้งนี้มีลูกค้าเอสเอ็มอี ของธนาคารจำนวน 14,395 รายที่อยู่ใน 12 จังหวัดดังกล่าว ซึ่งลูกค้าได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไป ธนาคารกำลังลงพื้นที่สำรวจ และประเมินความเสียหายของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด โดยหวังว่า มาตรการการช่วยเหลือในครั้งนี้จะช่วยบรรเทาภาระ และให้ลูกค้ามีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจต่อไป จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ลูกค้าเอสเอ็มอี ของธนาคารที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ที่ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้า หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ K-Biz Contact Center โทร.02-8888822