พีทีจี เอ็นเนอยี ส่ง “อินโนเทค กรีน เอ็นเนอยี” บริษัทร่วมทุนลงนาม “ซัปโปโร โฮลดิ้ง” เพื่อใช้เทคโนโลยีการผลิตเอทานอลจากกากมันสำปะหลัง เดินหน้าผลิตเอทานอลป้อนตลาด
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการให้บริษัท อินโนเทค กรีน เอ็นเนอยี จำกัด ประกอบกิจการผลิต และจำหน่ายเอทานอล น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพจากกากมันสำปะหลัง หรือแป้ง หรือผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวกับแป้ง ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอี่ยมบรูพา จำกัด โดยมีมูลค่าลงทุนในโครงการ 1,500 ล้านบาท เข้าลงนามข้อตกลงการใช้เทคโนโลยีการผลิตเอทานอลจากกากมันสำปะหลังกับบริษัท ซัปโปโร โฮลดิ้ง จำกัด โดยเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการย่อยแป้งที่เหลือในกากมันสำปะหลังให้สามารถนำมาผลิตเป็นน้ำตาล และเข้าสู่กระบวนการหมักให้เป็นเอทานอล ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าของเหลือใช้ให้สูงขึ้น
“เรามีความยินดีที่เป็นส่วนหนึ่งในการนำนวัตกรรมดังกล่าวมาใช้ในการผลิตเอทานอล และขอขอบคุณสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (NIA), องค์การพัฒนาพลังงานใหม่ และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น (NEDO), บริษัท เอี่ยมบูรพา จำกัด, บริษัท ซัปโปโร โฮลดิ้ง จำกัด รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เพราะเทคโนโลยีนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการผลิตเอทานอลของประเทศไทย สามารถนำสิ่งที่เหลือใช้แล้วให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น และคนไทยจะได้ใช้พลังงานสะอาดที่มีประสิทธิภาพในราคาที่ถูกลง เพื่อการใช้พลังงานทดแทนอย่างยั่งยืนต่อไป” นายพิทักษ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ประธานกรรมการ บริษัท เอี่ยมบรูพา จำกัด ผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลัง (Cassava Starch) มีกำลังการผลิตรวมกับบริษัทในเครือญาติทั้งหมด คิดเป็น 30% ของกำลังการผลิตแป้งมันของประเทศไทย กล่าวขอบคุณสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่ได้นำโครงการนี้มาทำการวิจัยและพัฒนาในพื้นที่ของบริษัท ด้วยความร่วมมือจากหลายๆ หน่วยงานทั้งองค์การ NEDO, ซัปโปโร และอิวาตะ เคมิคอล ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่กลุ่มอุตสาหกรรมมันสำปะหลังในด้านการเพิ่มศักยภาพการจัดการวัสดุเหลือใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และยังจะส่งผลถึงกลุ่มเกษตรกร ทำให้มีความมั่นคงด้านการเกษตรกรรม และเศรษฐกิจของประเทศ เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพแก่เกษตรกรต่อไป
ดร.จูนจิ วาตาริ, Managing Director, Group Research and Development Division บริษัท ซัปโปโร โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า การมีพลังงานใช้อย่างพอเพียงนั้น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจไทยที่มีการเติบโตอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา พวกเราในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารของประเทศญี่ปุ่น มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำความรู้ เทคโนโลยี และภูมิปัญญาที่เราสั่งสมมาเป็นเวลานาน มาใช้ช่วยสนับสนุนการหมักกากมันสำปะหลังเพื่อผลิตเป็นไบโอเอทานอล เพื่อช่วยให้ประเทศไทยสามารถผลิตพลังงานที่เพียงพอสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน
นายมูนิฮิโกะ ซึชิยะ, Executive Director, องค์การพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า พันธะกิจหลักอันหนึ่งของ NEDO ก็คือ การแก้ไขปัญหาพลังงาน และสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โปรเจกต์ในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีของบริษัท Sapporo Breweries และบริษัท Iwata Chemical มาใช้ช่วยให้การหมักกากมันสำปะหลังเพื่อผลิตเป็นไบโอเอทานอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยวิธีการผลิตพลังงานเช่นนี้ ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากกากมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นของเสียทางชีวภาพได้อย่างเต็มที่ และในขณะเดียวกัน ก็ยังช่วยลดการใช้ถ่านหิน ซึ่งใช้ในการผลิตพลังงานได้อีกด้วย จึงถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ดีเยี่ยมสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน