ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,140 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และทำจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ธ.ค.59 โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาหลังจากที่ราคาทองคำปรับลงมาราว 200 ดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ราคาทองคำในไตรมาส 4/59 ปรับลดลงราว 13% จากที่ไตรมาส 1/59 และเป็นไตรมาสที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 16% ซึ่งเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดในรอบ 30 ปีของทองคำ
อย่างไรก็ดี ในช่วงกลางคืนมีแรงเทขายทองคำออกมา ทำให้ปิดตลาดต่ำกว่า 1,140 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ โดย Conference Board เพิ่มขึ้น ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี สู่ระดับ 113.7 จากระดับ 109.4 ในเดือน พ.ย. สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน กองทุน SPDR ขายทองคำทั้งสิ้น 1.23 ตัน หลังจากขายทองคำทั้งสิ้น 12.5 ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
แนวโน้มราคาทางด้านเทคนิค คาดมีโอกาสปรับขึ้นไปที่แนวต้าน 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,160 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,135 และ 1,130 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ตามลำดับ
ทั้งนี้ ราคาทองคำในไตรมาส 4/59 ปรับลดลงราว 13% จากที่ไตรมาส 1/59 และเป็นไตรมาสที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 16% ซึ่งเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดในรอบ 30 ปีของทองคำ
อย่างไรก็ดี ในช่วงกลางคืนมีแรงเทขายทองคำออกมา ทำให้ปิดตลาดต่ำกว่า 1,140 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ โดย Conference Board เพิ่มขึ้น ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี สู่ระดับ 113.7 จากระดับ 109.4 ในเดือน พ.ย. สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน กองทุน SPDR ขายทองคำทั้งสิ้น 1.23 ตัน หลังจากขายทองคำทั้งสิ้น 12.5 ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
แนวโน้มราคาทางด้านเทคนิค คาดมีโอกาสปรับขึ้นไปที่แนวต้าน 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,160 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,135 และ 1,130 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ตามลำดับ