UMI แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ยอดขาย 719 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 211 ล้านบาท หรือ 23% ชี้เป็นการลดลงตามทิศทางอุตสาหกรรม ส่วนกำไรสุทธิโตเพิ่ม 29 ล้านบาท ส่วนทางยอดขายหลังเข้มบริหารต้นทุน เผยแผนปี 60 เดินหน้าผลิตสินค้าสร้างความหลากหลายสู่ตลาดกระเบื้องทั้งใน และต่างประเทศ
นายสมบูรณ์ อุรานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ UMI กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 ปี 2559 UMI มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่รวมทั้งสิ้น 33 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2558 กว่า 29 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3 นี้ เกิดจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่มีรายได้จากการขายสินค้า 719 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 211 ล้านบาท หรือ 23% สืบเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ชะลอตัว และการสิ้นสุดการควบคุมบริษัทย่อยในเครือ สำหรับการที่บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากราคาต้นทุนก๊าซ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักปรับลดลง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนด้านต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในไตรมาสนี้
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 นั้น แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และตลาดกระเบื้องเองนั้น ยังคงทรงตัว เพราะได้รับผลกระทบจากสภาวะทางเศรษฐกิจ แต่บริษัทฯ ยังมั่นใจว่า จะสามารถสร้างผลกำไรให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ในการบริหารงานอย่างครอบคลุม โดยเน้นการเพิ่มความหลากหลาย และพัฒนาสินค้านวัตกรรมต่างๆ รวมถึงการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เพื่อเติมเต็ม Product range และขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV
โดยปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ ถือเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายกระเบื้องชั้นนำของประเทศไทย ที่มีผลิตภัณฑ์กระเบื้องครอบคลุมทั้งกระเบื้องเซรามิก และกระเบื้องพอร์ซเลน ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกระดับ ทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกที่หลากหลาย ดังวิสัยทัศน์ของบริษัทที่วางไว้ว่า “จะมุ่งมั่นและพัฒนาให้แบรนด์ดูราเกรสเป็นทางเลือกอันดับแรกในใจผู้บริโภค”