xs
xsm
sm
md
lg

รบ.จับตานโยบาย ศก.สหรัฐฯ ขณะที่ ธปท.มองผลเลือกตั้งฯ กระทบตลาดเงินผันผวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รองนายก “สมคิด” ชี้ “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ตอกย้ำความต้องการเปลี่ยนแปลงของคนอเมริกัน จับตานโยบาย ศก.อย่างใกล้ชิด ขณะที่ ธปท.ยอมรับผลเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ กระทบตลาดเงินผันผวนพอควร

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุด นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน เป็นผู้ชนะ โดยมองว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถือว่าดีทั้งนั้น และไทยจะต้องปรับตัวเพื่อให้นโยบายด้านต่างๆ สามารถร่วมมือ และเดินหน้าต่อไปได้

โดยผลการเลือกตั้งดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่า คนอเมริกันต้องการความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สอดคล้องกับแนวทางรัฐบาลไทยปัจจุบันที่ไม่ต้องการนโยบาย หรือสิ่งใดที่ซ้ำซาก แต่ต้องการเปลี่ยนแปลง และโครงการใหม่ๆ เพื่อปูพื้นฐานของประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการเลือกตั้งประธานธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันนี้ว่า กระทบตลาดเงินผันผวนพอสมควร แต่เร็วเกินไปที่จะมองผลกระทบหากนายโดนัล ทรัมป์ ขึ้นรับตำแหน่ง เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายยังมีสูง เพราะก่อนที่สหรัฐฯ จะประกาศนโยบายใหม่ออกมาคงต้องใช้เวลา จึงมองว่ายังผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการค้าของโลกยังมีความไม่แน่นอน

สำหรับในเรื่องความผันผวนที่เกิดขึ้น ไม่ต้องห่วงว่า ธปท.จะดำเนินการอย่างไร แต่มีความเป็นห่วงภาคเอกชนที่ต้องปรับตัวเพื่อรองรับความผันผวน ทั้งเงินทุนเคลื่อนย้าย และอัตราแลกเปลี่ยน

นอกจากนี้ กนง.ยังไม่ได้มีการพิจารณาถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีการคาดการณ์เรื่องดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอย่างไร แต่วันนี้ตลาดมี re-action ต่อการเลือกตั้งอย่างหนัก เพราะยังไม่ได้คาดการณ์เรื่องนี้ไว้

ด้าน นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมานายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะ จะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพียงพอต่อการรองรับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

แต่สิ่งที่ต้องจับตาในระยะสั้น คือ ความเคลื่อนไหวตลาดเงินตลาดทุนที่อาจเกิดความผันผวน และแนวทางนโยบายยังไม่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะส่งผลให้กระทบกับความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ ทำให้อาจจะเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงแทน เช่น ทองคำ

อีกทั้ง นอกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ แล้ว ยังมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ ที่จะต้องติดตาม โดยในเบื้องต้น คาดว่า FOMC จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเล็กน้อยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น