JLL เผยการซื้อขายอาคารทั่วโลกช่วง 9 เดือน มีมูลค่าสูงถึง 15.9 ล้านล้านบาท แต่ปรับตัวลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันถึง 8% เหตุความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเมืองของโลก ขณะที่ในภูมิภาคเอเชียฯ จีนมีการซื้อขายคึกคัก มูลค่าซื้อขายในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 40%
การลงทุนซื้อขายอาคาร และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีประโยชน์การใช้ในเชิงธุรกิจ (อาทิ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม โรงงาน และโกดังสินค้า) ทั่วโลกในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 163,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.7 ล้านล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 6% จากไตรมาสสอง
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับไตรมาสสามของปี 58 มูลค่าการลงทุนปรับลดลงประมาณ 5% ส่วนการลงทุนซื้อขายรวมของ 9 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าสะสมรวมทั้งสิ้นประมาณ 454,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15.9 ล้านล้านบาท ซึ่งยังคงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 8% ตามการรายงานจากบริษัทที่ปรึกษา และบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล
การปรับลดลงดังกล่าวถือว่าไม่มาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง และเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของโลก จากเหตุการณ์สำคัญๆ หลายเหตุการณ์ อาทิ การเจรจาเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ราคาหุ้นธนาคารดอยซ์แบงก์ ที่ร่วงลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และการประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของรัฐบาลญี่ปุ่น
นายเดวิด กรีน-มอร์แกน ผู้อำนวยการทั่วโลกหน่วยธุรกิจบริการด้านการลงทุนของเจแอลแอล กล่าวว่า “ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเมืองที่เกิดขึ้นในทั่วทุกภูมิภาคของโลกในช่วงครึ่งแรกของปี และดำเนินต่อเนื่องมาถึงไตรมาสสาม ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรโดยรวมทั่วโลกร่วงลงอย่างหนักเมื่อเร็วๆ นี้ และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากกว่า ช่วยให้การลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกในไตรมาสที่ผ่านมา นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าที่คาดไว้”
ไตรมาสสามที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกามียังคงเป็นภูมิภาคที่มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายสูงสุดในโลก คือ 78,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท ยอดการลงทุนซื้อขายสะสมของ 3 ไตรมาส อยู่ที่ 208,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7.28 ล้านล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 9%
ยุโรป+ตะวันออกกลาง (EMEA) มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายรวม 53,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.85 ล้านล้านบาท ในไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนมูลค่าสะสมของ 3 ไตรมาส มียอดรวมอยู่ที่ 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.6 ล้านล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 10% ทั้งนี้ อังกฤษ ซึ่งปกติเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายสูงสุดในโลก มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายลดลงไป 30% เมื่อคิดคำนวณในสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงค์
เอเชียแปซิฟิก มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายรวม 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.12 ล้านล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา จีนเป็นตลาดการซื้อขายที่คึกคักมากที่สุด โดยมีมูลค่าการลงทุนซื้อขายเพิ่มขึ้น 40% จากไตรมาสสามของปีที่แล้ว ส่วนมูลค่าสะสมของทั้งภูมิภาคในสามไตรมาสแรก มียอดรวมอยู่ที่ 86,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.01 ล้านล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2%
“มูลค่าการลงทุนซื้อขายรวมของทั้งปีนี้จะขึ้นอยู่กับไตรมาสสุดท้ายของปีว่า ตลาดการลงทุนซื้อขายใหญ่ๆ ของโลก โดยเฉพาะอังกฤษ จะมีความคึกคักมากน้อยเพียงใด ซึ่งในอดีตที่ผ่านๆ มา ไตรมาสสุดท้ายมักเป็นช่วงที่มีการลงทุนซื้อขายเกิดขึ้นมากที่สุด” นายกรีน-มอร์แกน กล่าว
