ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันที่ 13 ต.ค.59 ที่ 1,412.82 จุด เพิ่มขึ้น 6.64 จุด เปลี่ยนแปลง +0.47% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103,956.85 ล้านบาท ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ 35.476 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด สรุปภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (12 ต.ค.) ผันผวนมาก เนื่องจากมีปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุนทั้งจากต่างประเทศ และความกังวลจากปัจจัยภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อนักลงทุนพิจารณาปัจจัยพื้นฐานทั้งเศรษฐกิจในประเทศ และศักยภาพของบริษัทจดทะเบียนฯ พบว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 ต.ค.) ซื้อขายในราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน จึงสามารถรีบาวนด์กลับมาปิดตลาดในแดนบวกได้ โดยในช่วงนี้มองแนวรับที่ 1,350-1,390 จุด และแนวต้านบริเวณ 1,420-1,430 จุด
“กรณีที่ปัจจัยภายในประเทศเบาบางลง จะทำให้หุ้นไทยปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง ไม่แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรเข้าซื้อขายช่วงนี้ เพราะตลาดผันผวนมาก แต่หากเป็นนักลงทุนระยะยาวสามารถเข้าเลือกซื้อหุ้นได้แล้ว”
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยืนยัน ตลท. ได้เตรียมมาตรการรองรับไว้อย่างมาตรการ circuit breaker โดยแบ่งเป็นครั้งที่ 1 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 10% ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์ จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที และครั้งที่ 2 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 20% (ลดลงอีก 10%) ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์จะพักการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และหลังจากการทำงานครั้งที่ 2 ของ Circuit Breaker แล้ว ตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ทำการซื้อขายต่อไปจนถึงเวลาปิดทำการตามปกติ โดยไม่มีการหยุดพักการซื้อขายอีก หากระยะเวลาในรอบการซื้อขายที่ Circuit Breaker ทำงานนั้น เหลือไม่ถึง 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ก็ให้หยุดพักการซื้อขายเพียงระยะเวลาที่เหลือในรอบการซื้อขายนั้น แล้วเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ได้ตามปกติในรอบการซื้อขายถัดไป
นอกจากนี้ ทาง ตลท. แนะนำให้นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลอย่างเข็มงวด และใช้สติ และพิจารณาให้ดีก่อนเข้าลงทุนในสถาวะที่ตลาดมีความผันผวนอย่างรุนแรง และอยากให้พิจารณาข่าวสารให้ถี่ถ้วน รวมถึงวิเคราะห์หุ้นที่สามารถเข้าลงทุนได้ ซึ่งมั่นใจว่า ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ประชาชนทุกคนมั่นใจประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล พร้อมอย่าหลงเชื่อข่าวลือ หากมีเหตุการณ์ใด ขอให้ฟังจากรัฐบาลเพียงหน่วยงานเดียว และขออย่าตกเป็นเหยื่อของคนที่ต้องการจะทุบหุ้น เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ติดตามคนปล่อยข่าว และเห็นว่า ทุกคนควรช่วยกันเก็บหุ้นเหมือนกับในต่างประเทศที่ร่วมมือร่วมใจกันทำให้หุ้นดีขึ้น ไม่ใช่มาทุบหุ้นกันเอง ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ เพราะขณะนี้ทุกอย่างกำลังดีขึ้น จึงไม่อยากให้มาทำลายความเชื่อมั่นกันเอง