นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2559 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุน และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัดให้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 735 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 18 บาท มูลค่ารวม 13,230 ล้านบาท
โดยราคาที่เสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่สูงกว่าราคาปิดล่าสุด ในวันที่ 3 ตุลาคม 2559 คิดเป็นร้อยละ 5.9 สูงกว่าราคาถ่วงน้ำหนักถัวเฉลี่ย 15 วันย้อนหลัง และ 30 วันย้อนหลังของหุ้นไทคอนในตลาด คิดเป็นร้อยละ 11.2 และร้อยละ 13.6 ตามลำดับ โดยธุรกรรมดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และจากผู้ถือหุ้นของไทคอน บริษัทฯ จึงได้กำหนดให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 2559 เพื่อขออนุมัติเพิ่มทุน หลังจากการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน จะทำให้บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าถือหุ้นในไทคอน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นที่ออก และชำระแล้วทั้งหมด โดยบริษัทจะได้ขอให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ไม่ต้องทำคำเสนอซื้อภายใต้กฎหมายการเข้าครอบงำกิจการ (Whitewash)
สำหรับการเพิ่มทุนของไทคอนครั้งนี้ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้แก่กลุ่มไทคอน เป็นอย่างมาก โดยเพิ่มขีดความสามารถทางการเงินของบริษัทฯ ให้มีสภาพคล่องเพื่อขยายการลงทุนได้มากขึ้น รวมถึงการที่จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนดังกล่าวไปชำระคืนหนี้เงินกู้บางส่วน ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของไทคอน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การร่วมลงทุนระหว่างไทคอน และ FCL ในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการขยายการลงทุนพัฒนาโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบภูมิภาคอาเซียน อาทิ ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศเวียดนาม และเมียนมา เป็นต้น โดยอาศัยความสัมพันธ์ที่ดีที่มีต่อกัน ซึ่งจะส่งผลดีทั้งต่อบริษัทฯ และต่อผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ทั้งนี้ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือบริษัท Frasers Centrepoint Limited (FCL) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559) โดยมีธุรกิจหลักในการพัฒนา และบริหารอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท อาทิ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรมที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม โดยมีธุรกิจหลักในประเทศสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และโรงแรม ครอบคลุมกว่า 80 หัวเมืองทั่วโลก ในเอเชียเหนือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย ทวีปยุโรป และภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งวัตถุประสงค์ในการลงทุนครั้งนี้นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างการเติบโตในต่างประเทศ และสร้างรายได้ของกลุ่ม FCL อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทยถือเป็นเป้าหมายที่ FCL พิจารณาเลือกในการสร้างตลาดรอง เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากเป็นอันดับที่ 2 ของอาเซียน และยังมีปัจจัยหนุนให้เกิดการเติบโตด้านอุตสาหกรรม และลอจิสติกส์ในเชิงบวกได้ในระยะยาว ซึ่งการลงทุนในกลุ่มไทคอนครั้งนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้ไทคอน และ FCL สามารถต่อยอดการขยายธุรกิจไปสู่ผู้นำในธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการอุตสาหกรรมให้เติบโตในประเทศไทย และตลาดอาเซียน ได้เป็นอย่างดี