xs
xsm
sm
md
lg

บลูสโคป ทุ่มงบ 4,500 ล้าน ผุด รง.ผลิตเหล็กเคลือบโลหะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เปิดตัวกิจกรรม ครบรอบ50ปี จัดนิทรรศการโชว์ภาพผลงานระดับนานาชาติ ภายใต้ชื่องาน  “Steel Profile Exhibition” นำเสนอภาพผลงานที่น่าสนใจและโครงการที่ได้รับรางวัลจำนวน 50 โครงการ และเป็นโครงการที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์มาใช้ในงานออกแบบและก่อสร้าง
บลูสโคป ลงทุนครั้งใหญ่กว่า 4,500 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเหล็กเคลือบโลหะ กำลังการผลิต 140,000 ตันต่อปี หวังบุกตลาดอาคารขนาดเล็ก-ที่อยู่อาศัยระดับกลาง-ล่าง รองรับความต้องการเหล็กสร้างบ้าน อาคารขนาดเล็ก เพิ่มมากขึ้น ดันตลาดโต 8-10% ต่อปีไปอีก 10 ปีข้างหน้า พร้อมเดินหน้าขยายดีลเลอร์ให้ได้ 50 รายทั่วประเทศ

นายสมเกียรติ ปินตาธรรม ประธาน บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นเรียบเคลือบโลหะ และเหล็กเคลือบสี หรือ “บลูสโคป” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากบอร์ดบริหารของบริษัทฯ ให้เดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กเคลือบโลหะแห่งที่ 3 มูลค่า 4,500 ล้านบาท (125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยจะทำหน้าที่ผลิตเหล็กเคลือบโลหะคุณภาพสูง เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต และก่อสร้างของไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) จังหวัดระยอง โดยจะเริ่มการก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2559 และคาดว่าจะสร้างเสร็จสามารถเดินสายการผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป

การลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 11 ปี นอกประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทแม่โรงงานแห่งที่ 3 นี้มีกำลังการผลิต 140,000 ตันต่อปี และจะทำให้บลูสโคป มีกำลังการผลิตโดยรวมมากกว่า 500,000 ตันต่อปี โดยโรงงานใหม่จะสามารถผลิตเหล็กเคลือบที่มีความหนาสูงสุด 0.55 มิลลิเมตร เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้เหล็กเคลือบโลหะในอุตสาหกรรมก่อสร้างอาคารขนาดเล็ก (SME) และตลาดที่พักอาศัยระดับกลางไปถึงล่าง

“ปัจจุบัน ผู้บริโภคนิยมใช้เหล็กเป็นโครงสร้างบ้าน และอาคารมากขึ้น รวมถึงใช้ในการต่อเติมบ้าน นอกจากนี้ การเปิด AEC และเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทำให้มีการก่อสร้างโรงงานขนาดเล็กเกิดขึ้นจำนวนมาก จากแนวโน้มนี้ทำให้เชื่อว่า ตลาดเหล็กสำหรับอาคารขนาดเล็ก และที่พักอาศัยจะเติบโตได้ปีละ 8-10% ต่อปีนานต่อเนื่องไปอีก 10 ปีข้างหน้านี้” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ความต้องการเหล็กในอุสาหกรรมก่อสร้างมีประมาณ 1 ล้านตัน/ปี และมีการเติบโตประมาณ 8% ต่อปี ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าตลาดก่อสร้างจะมีการเติบโตน้อย แต่บริษัทยังมีรายได้จากการขายเหล็กเคลือบ ซูเปอร์ไดม่า สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้น 10% ในรอบปีบัญชีที่ผ่านมา (1 ก.ค.58-30 มิ.ย.59) โดยมีรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะรุกตลาดเหล็กเคลือบสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าการมีส่วนแบ่งตลาดถึง 40% ภายใน 3 ปีข้างหน้า

ปัจจุบัน บริษัทมีพอร์ตสินค้าเหล็กเคลือบ 3 ประเภท ได้แก่ 1.เหล็กเคลือบสำหรับอาคารขนาดเล็ก และที่อยู่อาศัย สัดส่วน 60% 2.อุตสาหกรรมก่อสร้างอาคารขนาดเล็ก (SME) และตลาดที่พักอาศัยระดับกลางไปถึงล่าง สัดส่วน 35% และ 3.เหล็กเคลือบสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายร้านค้าตัวแทนจำหน่าย BlueScope Authorized Dealer เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีจำนวน 35 สาขา เพิ่มเป็น 50 สาขาภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าขยายเป็น 100 สาขาภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยเน้นการเสนอขายสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง อาคารขนาดเล็ก (SME) และตลาดบ้านพักอาศัยระดับกลางไปจนถึงระดับล่าง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบ BLUESCOPE Zacs Ò (บลูสโคป แซคส์) เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดอาคาร และที่พักอาศัยในประเทศไทย

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวกิจกรรม ครบรอบ 50 ปี ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ (COLORBOND®) ของบลูสโคป ซึ่งเริ่มต้นผลิต และจำหน่ายครั้งแรกที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี ค.ศ.1966 และเป็นที่รู้จัก และยอมรับมาจนถึงปัจจุบันในกลุ่มสถาปนิก และวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากว่า 50 ปี โดยทางบลูสโคป ประเทศไทย ได้ถือโอกาสพิเศษนี้จัดนิทรรศการโชว์ภาพผลงานระดับนานาชาติ ภายใต้ชื่องาน “Steel Profile Exhibition” นำเสนอภาพผลงานที่น่าสนใจ และโครงการที่ได้รับรางวัล จำนวน 50 โครงการ และเป็นโครงการที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ มาใช้ในงานออกแบบ และก่อสร้าง ทั้งประเภทงานอาคารพาณิชย์ (Commercials) งานอาคารสถาบัน และอาคารสาธารณะ (Institutes & Public Buildings) และอาคารบ้านที่อยู่อาศัย (Residential) เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อต้องการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในงานออกแบบการก่อสร้าง และการใช้งานผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบ และเหล็กเคลือบสี ให้กับตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้า สถาปนิก นักศึกษา และคนทั่วไปที่สนใจ โดยสามารถเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการดังกล่าวได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยงานได้จัดให้มีขึ้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ตั้งแต่วันที่ 4-16 ตุลาคม 2559
กำลังโหลดความคิดเห็น