ศูนย์วิจัยกสิกรฯ เชื่อเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ไม่มีผลต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ชี้นักลงทุนมักนิยมผู้สมัครที่มีความไม่แน่นอนน้อยกว่า
นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงการดีเบตในรอบแรกของ 2 ตัวเก็งผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยระบุว่า จากผลสำนักโพลของต่างประเทศพบว่า นางฮิลลารี คลินตัน ค่อนข้างจะมีความได้เปรียบนายโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากนโยบายของทรัมป์ ก่อให้เกิดความไม่แน่นอน ทั้งการลดภาษีที่มีผลต่อการสถานะการคลังในระยะเวลานาน และการขึ้นภาษีศุลกากรแก่บางประเทศในอัตราสูง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดข้อพิพาททางการค้าตามมา
“นโยบายเหล่านี้ค่อนข้างสุดขั้ว ตลาดไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการในระดับใด และจะมีผลกระทบอย่างไร นักลงทุนจึงนิยมผู้สมัครที่มีความไม่แน่นอนน้อยกว่า ดีเบตยังมีอีก 2 ครั้ง ถ้าผลออกมาเป็นนางฮิลลารี ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกก็น่าจะน้อยลง” นายเชาว์ กล่าว
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าจากการที่ใครจะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ นั้น ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด เพราะการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะแรกของเฟดคงจะวางแผนการปรับขึ้นในอัตราที่ไม่สูงนัก เช่น หากปลายปีนี้ขึ้นดอกเบี้ย ก็จะทำให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 60 เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกไม่เกิน 2 ครั้ง
“ถ้าสมมติปลายปีนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งหนึ่ง ครึ่งแรกของปีหน้าก็คงทยอยขึ้นอีก 2 ครั้ง ก็ไม่เยอะมาก ผลกระทบทางการเมืองที่จะเปลี่ยนแล้ว ทำให้ปัญหาการขึ้นดอกเบี้ยยุ่งยากขึ้น น่าจะไม่มีมาก” นายเชาว์ กล่าว