ตลาดหลักทรัพย์ mai มุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับธุรกิจขนาดกลาง และย่อม โดยในปีนี้มี บจ.เข้าใหม่แล้ว 9 บริษัท และอยู่ในขั้นตอนการขอพิจารณารับหลักทรัพย์แล้ว เตรียมเข้าจดทะเบียน 6 บริษัท ขณะเดียวกัน ในช่วงที่เหลือของปี คาดมีบริษัทเตรียมยื่นขอพิจารณาอีก 5-10 บริษัท เผยแนวโน้มของธุรกิจไทยมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น โดย 3 ปีที่ผ่านมา บจ.เข้าใหม่ใน mai มีค่ากลาง (median) ของทุนชำระแล้วอยู่ที่ 175 ล้านบาท และส่วนใหญ่มีกำไรสุทธิ
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ในปีนี้ได้มีบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ใน mai แล้ว 9 บริษัท และที่อยู่ในขั้นตอนการขอพิจารณารับหลักทรัพย์แล้วเตรียมเข้าจดทะเบียน 6 บริษัท ขณะเดียวกัน ในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าจะมีการยื่นขอเข้าจดทะเบียนอีก 5-10 บริษัท
“แนวโน้มของธุรกิจในประเทศไทยในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจมีการเติบโต และมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น โดยบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ใน mai มีค่ากลาง (median) ของทุนชำระแล้วอยู่ที่ 175 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกินกว่า 100 ล้านบาท มีเพียงรายเดียวที่มีขนาด 65 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทส่วนใหญ่มีกำไรสุทธิ” นายประพันธ์ กล่าวเพิ่มเติม “นอกจากนี้ ในปี 2560 คาดว่าจะมีบริษัทยื่นขอเข้าจดทะเบียนประมาณ 15-20 บริษัท ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ mai จะทำงานร่วมกับบริษัทเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าในภาพรวม เกณฑ์รับหลักทรัพย์ใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ต้นปี 2560 จะไม่เป็นอุปสรรคต่อบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนใน mai”
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ mai ได้มีการส่งเสริมช่องทางการเข้าถึงแหล่งระดมทุนสำหรับธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม โดยให้คำปรึกษาสำหรับธุรกิจที่เตรียมตัวเข้าจดทะเบียนผ่าน IPO Focus นอกจากนี้ ยังเปิดตัว new.set.or.th เป็นช่องทางที่บูรณาการข้อมูล เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ startup รวมถึงการให้ความรู้ผ่านการอบรมสัมมนา และมีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในการให้การสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้ด้วย
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ในปีนี้ได้มีบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ใน mai แล้ว 9 บริษัท และที่อยู่ในขั้นตอนการขอพิจารณารับหลักทรัพย์แล้วเตรียมเข้าจดทะเบียน 6 บริษัท ขณะเดียวกัน ในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าจะมีการยื่นขอเข้าจดทะเบียนอีก 5-10 บริษัท
“แนวโน้มของธุรกิจในประเทศไทยในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจมีการเติบโต และมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น โดยบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ใน mai มีค่ากลาง (median) ของทุนชำระแล้วอยู่ที่ 175 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกินกว่า 100 ล้านบาท มีเพียงรายเดียวที่มีขนาด 65 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทส่วนใหญ่มีกำไรสุทธิ” นายประพันธ์ กล่าวเพิ่มเติม “นอกจากนี้ ในปี 2560 คาดว่าจะมีบริษัทยื่นขอเข้าจดทะเบียนประมาณ 15-20 บริษัท ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ mai จะทำงานร่วมกับบริษัทเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าในภาพรวม เกณฑ์รับหลักทรัพย์ใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ต้นปี 2560 จะไม่เป็นอุปสรรคต่อบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนใน mai”
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ mai ได้มีการส่งเสริมช่องทางการเข้าถึงแหล่งระดมทุนสำหรับธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม โดยให้คำปรึกษาสำหรับธุรกิจที่เตรียมตัวเข้าจดทะเบียนผ่าน IPO Focus นอกจากนี้ ยังเปิดตัว new.set.or.th เป็นช่องทางที่บูรณาการข้อมูล เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ startup รวมถึงการให้ความรู้ผ่านการอบรมสัมมนา และมีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในการให้การสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้ด้วย