ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์การรับบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ทั้ง SET และ mai เน้นพัฒนาคุณภาพของหลักทรัพย์ และเสริมสภาพคล่องการซื้อขาย ให้ตลาดทุนไทยเติบโตบนรากฐานที่แข็งแกร่ง เริ่มมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2560 และกำหนดพาร์ขั้นต่ำ 0.5 บาท เริ่ม 1 ต.ค. 2559 พร้อมศึกษาการส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กให้เข้าถึงแหล่งระดมทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจง่ายขึ้น
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งพัฒนาคุณภาพของหลักทรัพย์ และเสริมสภาพคล่องการซื้อขาย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีรากฐานที่แข็งแกร่ง จึงได้ปรับปรุงคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ให้เป็นหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพ และมีสภาพคล่อง สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ธุรกิจที่เข้าจดทะเบียนมีขนาดใหญ่ขึ้น
ทั้งนี้ เกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ ได้แก่ กำหนดให้บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนจะต้องมีส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวก ก่อนการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) โดยบริษัทที่จะจดทะเบียนใน mai จะต้องมีทุนชำระแล้ว และส่วนของผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิปีล่าสุด ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ ได้กำหนดให้บริษัทมีการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ไม่น้อยกว่า 25% เช่นเดียวกับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนใน SET ทั้งนี้ เพื่อให้มีหุ้นหมุนเวียนในตลาดมากขึ้น รวมทั้งปรับคุณสมบัติของบริษัทที่จะจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด (market capitalization) ให้ต้องเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นต้น โดยมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2560 ทั้งนี้ การปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบกับบริษัทที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณารับหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียน ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังกำหนดให้หุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนต้องมีมูลค่าที่ตราไว้ (Par) ขั้นต่ำไม่น้อยกว่าหุ้นละ 0.50 บาท เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจของผู้ลงทุน อย่างไรก็ดี จะมีการยกเว้นการกำหนดมูลค่าที่ตราไว้ขั้นต่ำดังกล่าวสำหรับหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีราคาพาร์ต่ำกว่า 0.50 บาทในปัจจุบัน รวมถึงในบางกรณีที่บริษัทจดทะเบียนมีความจำเป็นในการลดมูลค่าที่ตราไว้ให้ต่ำกว่า 0.50 บาท เช่น บริษัทที่มีราคาตลาดไม่น้อยกว่า 100 บาทต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง หรือบริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้าง เป็นต้น โดยการกำหนดมูลค่าที่ตราไว้ขั้นต่ำนี้ มีผลบังคับใช้ 1 ตุลาคม 2559
อย่างไรก็ดี เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดเล็กที่ปัจุบันมีอยู่จำนวนมากทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงแหล่งระดมทุนได้ง่ายขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่นเพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมให้วิสาหกิจตั้งต้น (startup) และวิสาหกิจขนาดเล็ก สามารถพัฒนาธุรกิจได้ง่ายขึ้น