"ชาญอิสสระฯ"เตรียมขยับลงทุนพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรในภาคตะวันออก ประตูสู่อีสเทิร์นซีบอร์ด เล็งที่ดินอ่างศิลาสนผุดคอนโดฯโลว์ไรส์ โชว์ยอดขายโครงการ 'ดิ อิสสระ เชียงใหม่' หลังทุนจีนเข้าร่วมทุน เผยโครงการ 'บาบา บีช คลับ' มีเศรษฐีชาวรัสเซียซื้อควักเงินซื้อบ้านหรู 140 กว่าล้านไปแล้ว ไม่ต้องลุ้นยอดขายคาดทั้งปี คาดทะลุเป้าที่วางไว้ 3,000 กว่าล้าน อานิสงส์มาตรการรัฐหนุน
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ CI กล่าวถึงทิศทางการลงทุนว่า ในระยะ 2 ปีนับจากนี้ บริษัทจะรุกตลาดที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออก เพราะเป็นประตูสู่อีสเทิร์นซีบอร์ด โดยเฉพาะย่านอำเภอศรีราชา และเส้นบายพาสใกล้โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ พัทยาที่มีกำลังซื้อ(ดีมานด์)อยู่มาก จึงมีแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทโครงการแนวราบ หากพัฒนาจะต้องใช้พื้นที่ประมาณ 50-60 ไร่ อีกทั้งยังสนใจที่ดินทำเลอ่างศิลา เพื่อพัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียมความสูงไม่เกิน 8 ชั้น ใช้พื้นที่ประมาณ 3-4 ไร่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล
สำหรับความคืบหน้าของโครงการต่างๆนั้น เริ่มจากโครงการดิ อิสสระ เชียงใหม่ มูลค่าโครงการ 762 ล้านบาท ซึ่งหลังจากในช่วงกลางปี 2558 กลุ่มเทียนหยวน เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของจีน เข้ามาร่วมทุนด้วย ทำให้ต้องชะลอการขายไประยะหนึ่ง เพื่อปรับรูปแบบโครงการและตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัท อิสสระ เทียนหยวน จำกัด นั้น และได้กลับมาเปิดการขายใหม่เมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อผ่านระบบออนไลน์ ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 20%
ส่วนวิลลาหรู”X24”ในโครงการศรีพันวา ซึ่งเป็นวิลลา ขนาด 2,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) ราคาขายกว่า 300 ล้านบาทนั้น ขณะนี้มีลูกค้าสนใจซื้อแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
โครงการ”บาบา บีช คลับ”ที่ร่วมทุนกับกลุ่มจุนฟา เรียลเอสเตท ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน-ฮ่องกง ตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท อิสสระ จุนฟา จำกัด ทุนจดทะเบียน 420 ล้านบาท พัฒนาโครงการในรูปแบบบ้านเดี่ยว ขนาด 1 ไร่ ราคา 120 ล้านบาท จำนวน 6 ยูนิต, พูลวิลลา ขนาด 200 ตร.ม. ราคา 16 ล้านบาท จำนวน 40 ยูนิต, คอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ ขนาด 40-50 ตร.ม. จำนวน 100 ยูนิต และโรงแรม รวมมูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ขณะนี้มีลูกค้าชาวรัฐเซียซื้อบ้านราคากว่า 140 ล้านบาทไปแล้ว โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560
“หลังจากที่เราเข้าไปพัฒนาโครงการในย่านพังงา ราคาที่ดินได้ปรับเพิ่มขึ้นถึง 1 เท่าตัว ประกอบกับเริ่มมีผู้ประกอบการชาวจีนเข้าไปพัฒนาโครงการในรูปแบบคล้ายคลึงกับ บาบา บีช คลับ ในย่านพังงาด้วยเช่นกัน รวมไปถึงมีข่าวว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์ กำลังทำประชาพิจารณ์ในการสร้างสนามบินในพื้นที่จ.พังงา เพื่อแบ่งเบาภาระจากสนามบินภูเก็ต ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการต่อวันเป็นจำนวนมาก เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาท่อเทียวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวจีน ส่งผลให้ขณะนี้เริ่มมีผู้ประกอบการและนายหน้าค้าที่ดินเริ่มซื้อที่ดินในบริเวณที่คาดว่าจะพัฒนาเป็นสนามบินแห่งใหม่บ้างแล้ว เชื่อว่าหากสามารถก่อสร้างสนามบินได้จะช่วยส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวได้มาก โดยหากเป็นทำเลที่คาดการณ์ก็จะอยู่ไม่ไกลจากโครงการบาบา บีช คลับ ในรัศมีเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น”
ขณะที่ความคืบหน้าในการย้ายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SPWPF) มูลค่า 2,000 ล้านบาท ไปเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) คาดว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาส 4/2559 ขณะนี้ผ่านการประชุมผู้ถือหน่วย ในการยุบSPWPF เพื่อตั้งREIT ไปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559 เป็นเรียบร้อยแล้ว และนำสินทรัพย์ขายเข้ากอง REIT เพิ่มเติม คือ โครงการศรีพันวา เฟส 2 มูลค่า 1,250 ล้านบาท โดยวัตถุประสงค์นั้นจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนโครงการในอนาคต และใช้คืนหนี้สถาบันทางการเงิน
ด้านแผนการลงทุนอสังหาฯระดับไฮเอนด์ ในประเทศเมียนมาร์ ที่จะเข้าไปลงทุนในรูปแบบร้านอาหารนำร่องก่อน ด้วยการตั้งบริษัทในเครือขึ้นมา และนำร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ “ฮิดะ ยากินิคุเตน” ที่ร่วมกับบริษัทในเครือฮอนโมโน กรุ๊ป จำกัด บริหารงานโดยเชฟบรรฑูร ชูผลา เชฟชื่อดังอาหารญี่ปุ่นตัวจริง และเชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ เชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่นแห่งประเทศไทยนั้น คงต้องชะลอการดำเนินการออกไปก่อน เพราะปัจจุบันแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและโรงแรมในประเทศไทยยังมีอีกหลายโครงการ ดังนั้นบุคลากรจึงยังไม่เพียงพอที่จะขยายฐานไปยังตลาดต่างประเทศ
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้รวม 1,848 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี2558 ที่มีรายได้ 1,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.2% โดยเป็นรายได้จากขายอสังหาริมทรัพย์ 1,432 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่ 811 ล้านบาท เติบโต 76.5% ที่เหลือเป็นรายได้จากโรงแรม
ส่วนยอดขายของบริษัทฯในปีนี้คาดว่าจะสามารถทำได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3,000 ล้านบาท คือที่กว่า 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากมาตรการรัฐในช่วงต้นปีที่เป็นปัจจัยหนุนยอดขายของบริษัทให้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับรายได้