ภาพรวมตลาดยังมีโอกาสผันผวน โดยคาดว่าจะมีการปรับลงสลับกับรีบาวนด์

หุ้นส่งท้ายสัปดาห์ปิดร่วง 18.23 จุด คาดเป็นการ Panic Sell กังวลต่างชาติเทหุ้น หลังขายในกลุ่มทิปไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น นักลงทุนจึงปรับพอร์ตเพื่อล็อก profit ไว้ก่อน ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าอาจแกว่งผันผวน โดยปรับตัวลงสลับกับรีบาวนด์ โดยจะขึ้นกับตัวเลข ศก.ในต่างประเทศ

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (2 ก.ย.) ร่วงแรง มองว่าเป็นการขายลักษณะตี่นตระหนก (Panic Sell) จากความกังวลนักลงทุนต่างชาติจะขายออกจาดตลาดหุ้นไทย หลังจากขายในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ในช่วงก่อนหน้านี้ ดังนั้น นักลงทุนจึงปรับพอร์ตเพื่อล็อก profit ไว้ก่อน

ขณะที่ตลาดฯ ยังเฝ้ารอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะออกมาคืนวันนี้ เพราะจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ รวมไปถึงในทางเทคนิคดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,528 จุดด้วยจึงทำให้มีแรงขายออกมามากขึ้น

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก แม้แต่ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ก็อยู่ในแดนบวก รวมไปถึงตลาดหุ้นในยุโรป ที่เทรดบ่ายนี้ต่างก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ตลาดบ้านเราวันนี้ จึงเป็นการปรับลงสวนทางตลาดต่างประเทศ

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,521.48 จุด ลดลง 18.23 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.18% มูลค่าการซื้อขาย 71,753.96 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯ มีโอกาสที่จะผันผวนได้ โดยดัชนีฯ อาจแกว่งตัวลงสลับกับรีบาวนด์ ขึ้นกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ จะออกมาเป็นอย่างไร และในสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มเห็นธนาคารกลางหลายแห่งทยอยจัดประชุม อาทิ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 8 ก.ย.นี้

อย่างไรก็ดี แนวรับที่ 1,500 จุด มองว่าน่าจะยืนอยู่ และหากยืนได้เหนือจุดดังกล่าวดัชนีฯ ก็มีโอกาสรีบาวนด์ แต่ถ้าไม่ได้ก็ให้ระวังการปรับตัวลงลึก พร้อมให้แนวต้านที่ 1,540 จุด