ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง คว้างานประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา จำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 26.1 MW ผู้บริหารชูจุดเด่นมีความชำนาญด้านธุรกิจโรงไฟฟ้า-พันธมิตรแข็งแกร่ง-บริษัทแม่ TPOLY เชี่ยวชาญงานรับเหมาด้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า พร้อมลุยงานเต็มสูบ
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่า บริษัทได้ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้เป็นผู้ดำเนินการลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมโครงการพลังงานแสงอาทิตย์) ในแบบ Feed-in Tariff 2559 ระยะที่ 1 สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จ.ปัตตานี, จ.ยะลา, จ.นราธิวาส) และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ จะนะ, เทพา, สะบ้าย้อย และนาทวี จำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 26.1 เมกะวัตต์ จาก 36 เมกกะวัตต์ ที่เปิดประมูล
เนื่องจากบริษัทมีจุดเด่น คือ มีความชำนาญด้านธุรกิจโรงไฟฟ้า มีการจัดหาเทคโนโลยีที่ดีประหยัดเชื้อเพลิง โดยบริษัทเลือกใช้เทคโนโลยี High Pressure High Temperature ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับโรงไฟฟ้ามหาชัย กรีน พาวเวอร์ ทำให้สามารถบริหารต้นทุนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความสามารถในการจัดหาแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ดังกล่าว ประกอบกับมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และบริษัทแม่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY มีศักยภาพสามารถรับเหมางานด้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จึงสามารถชนะการประมูลได้
“กกพ.ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ซึ่ง TPCH ได้ผ่านการคัดเลือก จำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 26.1 เมกะวัตต์ ได้แก่ TPCH 1 จำนวน 9.9 เมกะวัตต์ TPCH 2 จำนวน 9.9 เมกะวัตต์ และ TPCH 5 จำนวน 6.3 เมกะวัตต์ โดยค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.2 บาท ซึ่งราคาที่ชนะการประมูลได้ใกล้เคียงกับราคาขายไฟ ของโรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอ พาวเวอร์ ในระบบ Adder จึงมั่นใจได้ว่า สามารถบริหารรายได้ และกำไรของโรงไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง บริษัทฯ เองก็มีความพร้อมทั้งด้านวัตถุดิบ การก่อสร้าง บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมีความชำนาญ และมีประสบการณ์ทำงานในพื้นที่ดี” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ผลการได้รับการคัดเลือกในปัจจุบันทำให้ TPCH มีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งสิ้น 11 แห่ง กำลังการผลิต 141 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง กำลังการผลิต 132 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ อีก 1 แห่ง กำลังการผลิต 9.5 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นโครงการที่ขายไฟฟ้าแล้ว 30 เมกะวัตต์ โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 30 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 81 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย
1.โรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) 2.โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) 3.โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) 4.โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG) 5.โรงไฟฟ้าชีวมวลพัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) 6.โรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) 7.โรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน (PTG) 8.โรงไฟฟ้า ทีพีซี เพาเวอร์ 1 (TPCH 1) 9.โรงไฟฟ้า ทีพีซี เพาเวอร์ 2 (TPCH 2) 10.โรงไฟฟ้า ทีพีซี เพาเวอร์ 5 (TPCH 5) และ 11.โรงไฟฟ้า สยาม พาวเวอร์ (SP) ดังนั้น จึงมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าอื่นๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว, โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในกัมพูชา และโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนในประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังคาดว่ารายได้ในปีนี้จะขยายตัว 200% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 304.90 ล้านบาท