ผู้จัดการ ตลท.เตือนนักลงทุนพิจารณาผลประกอบการ บจ. ประกอบการตัดสินใจก่อนเข้าซื้อหุ้น หลังราคาหุ้นปรับขึ้นร้อนแรง มั่นใจพื้นฐานตลาดหุ้นไทยแข็งแรงเพียงพอรับมือเงินไหลออก หากเฟดขึ้นดอกเบี้ย ก.ย.นี้
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยเป็นจำนวนมากกว่า 110,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบัน เงินทุนต่างชาติก็ยังไหลเข้าต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจของอาเซียนขยายตัวได้ดี และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนของไทยออกมาดีที่สุดในอาเซียน สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของบริษัทไทยที่สามารถเผชิญปัญหาต่างๆ ในอดีตที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาหุ้นบางตัวได้ปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมาก ระดับหุ้นต่อกำไรสุทธิ หรือ PE/Ratio สูง ดังนั้น ตลท.จึงขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูล และราคาหุ้นอย่างรอบคอบ เปรียบเทียบกับผลประกอบการ และอัตราจ่ายเงินปันผลว่าเหมาะสมกับราคาหรือไม่ แต่หากเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อรับเงินปันผล หุ้นไทยก็ยังมีความน่าสนใจ
นางเกศรา ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 3.5 จากไตรมาส 1 ที่โตร้อยละ 3.2 มั่นใจว่าจีดีพีทั้งปีจะโตได้มากกว่าร้อยละ 3 และจะเป็นผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งขณะนี้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์กำลังอยู่ระหว่างทบทวนข้อมูล เพื่อปรับเพิ่มประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน
ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการประชุมในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งตลาดเริ่มคาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น มองว่าที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยอาจจะเป็นในรอบการประชุมเดือนกันยายน หรือธันวาคมนี้ ซึ่งมั่นใจจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริง
กรณีดังกล่าว คาดว่าผลกระทบต่อไทยจะมีไม่มาก เนื่องจาก 3 ปีที่ผ่านมา ต่างชาติได้ขายสุทธิหุ้นไทยมาโดยตลอด แต่ตลาดหุ้นไทยก็มีนักลงทุนในประเทศเป็นผู้ประคับประคองตลาด ดังนั้น จึงเชื่อว่าแม้ต่างชาติจะขายทำกำไรก็ไม่น่าจะเกิดปัญหา แต่นักลงทุนยังต้องติดตามความไม่สมดุลของนโยบายการเงินที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศด้วย เพราะยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดหุ้นทั่วโลก