ผู้หญิงเก่งวัยเพียง “อรปภัตร จันทรสาขา” หรือฉายา “ไฮโซม่านฟ้า” ประกาศปิดโครงการระดมทุนไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากหลายหน่วยงานเพ่งเล็ง เพราะการเชิญชวนให้คนทั่วไปเข้ามาลงทุนโดยเสนอผลตอบแทนที่สูงลิบลิ่วนั้นอาจผิดกฎหมาย เข้าข่ายการหลอกลวงประชาชน
ไฮโซม่านฟ้า มีธุรกิจขายเครื่องสำอางนำเข้า ความฉูดฉาดในการแต่งตัวทำให้ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยถูกกล่าวถึงในฐานะสาวสวยวัยเพียง 27 ปี ที่เก่ง และร่ำรวย แต่ไม่มีใครประเมินได้ว่า ทรัพย์สินของเธอมีจำนวนเท่าใด ธุรกิจขายเครื่องสำอางของบริษัท ม่านฟ้า กรุ๊ป ไปได้ดีขนาดไหน ยอดขายปีละเท่าไหร่ กำไรมากน้อยเพียงใด ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด แต่ความสนใจที่หลายหน่วยงานจะเข้าตรวจสอบธุรกรรมของ “ม่านฟ้า” เกิดขึ้นหลังมีการเผยแพร่ข้อความเชิญคนทั่วไปเข้าลงทุน ซึ่งจะจ่ายปันผลปีละ 15% โดยไม่มีความเสี่ยงจากการลงทุน
ไม่มีรายละเอียดว่า ไฮโซม่านฟ้า จะระดมเงินจำนวนเท่าไหร่ นำเงินไปลงทุนอะไร มีแต่การเสนอผลตอบแทนที่จูงใจ และคำโฆษณาชวนเชื่อในการประกันความเสี่ยง จะมีใครโอนเงินเข้าไปลงทุนหรือยังไม่มีใครทราบแต่ถ้ามีก็ต้องคืนเงินกลับไป เพราะโครงการระดมทุนต้องยกเลิกกลางคันไม่เช่นนั้นไฮโซม่านฟ้าอาจมีคดีติดตัว
สำนักง่านคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมอยู่แล้วที่จะเข้าตรวจสอบโครงการระดมทุนของไฮโซม่านฟ้า เพราะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ การประกาศขายระดมทุนจากประชาชนทั่วไป ไม่ใช่ใครๆ ก็ทำได้ แต่จะต้องเสนอขออนุมัติจาก ก.ล.ต.ตามขั้นตอน ใครที่ต้องการระดมเงินถ้าสามารถประกาศเชิญชวนได้ตามใจชอบ ทุกคนคงประกาศระดมทุนกันอย่างสนุกสนาน เพราะมีคนที่อยากระดมทุนกันทั่วไปหมด จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายกำกับการระดมทุน โดย ก.ล.ต.เป็นหน่วยงานที่ดูแล
แชร์ลูกโซ่ กองทุนเถื่อนทั้งหลายที่หาสมาชิกหาลูกค้า หรือหลอกล่อเหยื่อทั้งหลายต้องดำเนินธุรกรรมอย่างหลบๆ ซ่อนๆ หรือต้องสร้างฉากธุรกิจถูกกฎหมายบังหน้า ส่วนการที่ไฮโซม่านฟ้าประกาศระดมทุนเอาดื้อๆ เพราะไม่รู้เรื่องกฎหมาย ไม่เข้าใจขั้นตอนการประกาศระดมทุนที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับ “เก๋ เลเดอรเรอร์” หรือ “กันยกร ศุภการค้าเจริญ” สาวเปรี้ยวเข้าข่ายไฮโซอีกคนที่ดำเนินธุรกรรมในลักษณะเดียวกับไฮโซม่านฟ้า และ ก.ล.ต.กำลังตรวจสอบอยู่
เครื่องมือในการหลอกล่อเหยื่อของแชร์ลูกโซ่ และกองทุนเถื่อนทั้งหลายมีเพียงชิ้นเดียวคือ ผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งมักจะโฆษณาชวนเชื่อกันว่า ร่วมลงทุนแล้วผลตอบแทนงาม ทำให้เกิดกิเลศ และความโลภ จนหลวมตัวร่วมลงทุน และต้องมานอนช้ำใจภายหลัง ผลตอบแทนที่ไฮโซม่านฟ้าประกาศให้ผู้ร่วมลงทุนกำหนดไว้ 15% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำนับสิบเท่า ซึ่งถ้าทำได้ถือว่าสุดยอดมาก
ถ้าไม่มีความเสี่ยงจริง ไฮโซม่านฟ้าจัดผลตอบแทนได้ปีละ 15% จริง ธนาคารคงล้มกันระเนระนาด เพราะผู้ฝากเงินจะแห่ถอนเงินนำมาลงทุนกับไฮโซม่านฟ้าจนรับไม่หวาดไม่ไหว แต่เพราะมีประชาชนจำนวนมากต้องสูญเสียเงินถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัวมาแล้ว จากการร่วมลงทุนกับแชร์ลูกโซ่ในรูปแบบต่างๆ ก.ล.ต.จึงต้องสกัดไฟแต่ต้นลม
ในตลาดหุ้นก็มีการจัดตั้งกองทุนเถื่อนเหมือนกัน โดยจะมีคนตั้งตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุน สร้างภาพเป็นกูรูหุ้น สามารถสร้างกำไรงามๆ จากการซื้อขายหุ้นได้ นักลงทุนจึงมอบหมายเงินให้บริหาร เพราะหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนงามๆ แต่ส่วนใหญ่ “เจ้าทรัพย์” ตายหมด เพราะถ้ามีกำไรคนที่บริหารเงินจะได้รับส่วนแบ่งตามที่ขาดทุน แต่หากเกิดความเสียหาย หรือขาดทุนไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ นักลงทุนจำนวนไม่น้อยอยากรวยจากหุ้น แต่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ ไม่มีเวลาศึกษา จึงฝากเงินให้ผู้ที่อ้างตัวเป็นกูรูหุ้นบริหาร หรือฝากให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายมาร์เกตติ้งดูแลพอร์ต หรือดูแลวงเงินลงทุน มอบอำนาจให้ตัดสินใจซื้อขายแทน และถูกเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งโกงเป็นข่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เช่นเดียวกับเรื่องราวแก๊งต้มตุ๋นในคราบแชร์ลูกโซ่ที่เกิดขั้นมาหลายสิบปี ทั้งที่ไม่ควรมีใครหลวมตัวตกเป็นเหยื่ออีก กองทุนไฮโซม่านฟ้า ถูก ก.ล.ต.รูดม่านปิดฉากลงแล้ว แต่การหลอกลวงให้ลงทุนในกองทุนเถื่อน หรือเล่นแชร์ลูกโซ่จะดำเนินต่อไปตราบที่ความโลภยังเป็นจุดขายได้
สุนันท์ ศรีจันทรา