xs
xsm
sm
md
lg

สตาร์ส ไมโครฯ ไตรมาส 2 ฟื้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ฯ โชว์ผลงานไตรมาส 2 สวย สามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ถึง 32.40 ล้านบาท กำไรพุ่ง 3,211% มีรายได้ 935.83 ล้านบาท ผลจากการที่บริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์หมุนกำลังการผลิตออกจากสินค้าประเภทมาร์จิ้นต่ำ อย่าง MMA มาผลิตสินค้าประเภท high value added ดันมาร์จิ้นเพิ่ม ผู้บริหารมั่นใจผลประกอบการครึ่งหลังปี 59 คาดยังคงเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก มั่นใจปีนี้ล้างขาดทุนสะสม 60 ล้านบาท เกลี้ยง

นายพีระพล วิไลวงศ์เสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 32.40 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไรเพิ่มขึ้น 3,211% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 14.46 ล้านบาท เนื่องจากในงบการเงินรวมไตรมาส 2/59 บริษัทฯ มีรายรับจากการขายสินค้าและบริการ จำนวน 935.83 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 833.03 ล้านบาท หรือลดลง 47.09% ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินค้าในกลุ่ม Hard Disk Drive เนื่องจากการหดตัวของตลาด Hard Disk Drive และการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น
 
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีรายได้จากสินค้าและบริการในธุรกิจการประกอบ และทดสอบแผงวงจรไฟฟ้า รวม (IC Packaging) เพิ่มมากขึ้นเป็น 357 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้ 227 ล้านบาท คิดเป็นรายได้เพิ่มขึ้น 130 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.27% ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าในกลุ่ม Hard Disk Drive ทำให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น เมื่อรวมกับมาตรการลดต้นทุนของบริษัทฯ ที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2559 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้น 85.33 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเพียง 33.73 ล้านบาท

“รายได้และกำไรที่ออกมาสวย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/58 เนื่องจากบริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์หมุนกำลังการผลิตออกจากสินค้าประเภทมาร์จิ้นต่ำ อย่าง MMA มาผลิตสินค้าประเภท high value added กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ ส่งผลดีกับบริษัทฯ คือ การประหยัดเงินลงทุนในสายการผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูง ส่งผลให้ต้นทุนค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นน้อยมาก และสามารถหมุนพนักงานเดิมออกมาทำงานที่สร้างผลกำไรที่ดีให้กับบริษัทฯ โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยจะเป็นยอดขายของสินค้าใหม่ประมาณ 1,628 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะป็นผลิตภัณฑ์เดิม ประกอบด้วย IC Packaging (แผงวงจรไฟฟ้ารวม) และ MMA” นายพีระพล กล่าว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (1 มกราคม-สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559) บริษัทฯ สามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 70.42 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไรเพิ่มขึ้น 7,002.68% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 19.66 ล้านบาท ถือว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ โดยบริษัทฯ มีรายรับจากการขายสินค้าและบริการ จำนวน 2,161.46 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2,091.79 ล้านบาท หรือลดลง 48.18%

“ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 60 ล้านบาท ได้ภายในปี 59 โดยจะนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ล้างขาดทุนสะสม และเชื่อว่าในปีนี้จะกลับมาจ่ายปันผลได้อีกครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณานำเสนอขออนุมัติต่อมติบอร์ดบริษัทด้วย และปีนี้เรามั่นใจจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ เพราะปีนี้เรามีตัว New Product ที่เข้ามาเสริม ทำให้มาร์จิ้นสูง ส่งผลต่อเนื่องมายังกำไรสุทธิ SMT เริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาสแรกว่า กำไรดีขึ้นจากงาน New Product” นายพีระพล กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 คาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักมาจากการที่บริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์หมุนกำลังการผลิตออกจากสินค้าประเภทมาร์จิ้นต่ำ อย่าง MMA มาผลิตสินค้าประเภท high value added เช่น IC Packaging, Wafer dicing, Captive และ Specialty ซึ่งในปีที่ผ่านมา ยอดการผลิตสินค้ากลุ่มดังกล่าวนี้เพิ่มขึ้นมาราว 120% ทำให้มีสัดส่วนประมาณ 21% ของรายได้ เทียบกับปี 2557 ที่มีสัดส่วนเพียง 8% ของรายได้ ขณะที่สินค้ามาร์จิ้นต่ำอย่าง MMA ซึ่งเดิมเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ มีสัดส่วนลดลงจาก 92% ในปี 2557 และลดลงเหลือ 79% ในปี 2558 และคาดว่าในปี 2559 จะลดลงเหลือ 61%


กำลังโหลดความคิดเห็น