xs
xsm
sm
md
lg

UV เผย Q2 รายได้โต 17% ครึ่งปีหลังผุด 8 โครงการใหม่มูลค่า 9,164 ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วรวรรต ศรีสอ้าน
-ยูนิเวนเจอร์ เผยผลประกอบการ Q2 รายได้ 3,973.9 ล้านบาท โต 17% จากช่วงเดี่ยวกันของปีก่อน ส่งผลครึ่งปีแรกรายได้รวม 7,677.8 ล้านบาท แจงกำไรสุทธิ 532.6 ล้านบาท ยอดขายรอรับรู้รายได้ 6,224 ล้านบาท ครึ่งปีหลังส่ง 8 โครงการใหม่ลงตลาด มูลค่า 9,164 ล้านบาท

นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/59 มีรายได้รวม 3,973.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปี 58 กว่า 577.6 ล้านบาท หรือเติบโต 17% โดยมีรายได้หลักมาจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 3,314.6 ล้านบาท คิดเป็น 83% แบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวสูง 728.7 ล้านบาท และมาจากโครงการแนวราบ 2,585.9 ล้านบาท

“ปัจจุบัน UV มียอดขายรอรับรู้รายได้ 6,224 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 2,449 ล้านบาท และโครงการแนวสูง 3,775 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ รวมถึงการจัดโปรโมชันต่างๆ โดยช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่าจะรับรู้รายได้ จากยอดขายรอรับรู้ของโครงการแนวราบ และโครงการแนวสูง 4,537 ล้านบาท ส่วนยอดขายรอรับรู้ที่เหลืออีกจำนวน 1,687 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปี 2560”

สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่ามีรายได้ 303.0 ล้านบาท หรือ 8% ของรายได้รวม ลดลงจากปีที่แล้ว จำนวน 70.8 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทย่อย 2 บริษัทได้นำอาคารสำนักงานปาร์คเวนเจอร์ อีโคเพล็กซ์ และอาคารสำนักงาน สาทร สแควร์ เข้าทำสัญญาเช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงสัญญาแบ่งเช่าช่วงที่ดิน อาคารพร้อมทั้งส่วนควบ และงานระบบ กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (“GVREIT”) โดยได้รับเงินจำนวนทั้งสิ้น 9,761 ล้านบาท ซึ่งได้บันทึกเป็นรายได้สิทธิการเช่ารอตัดบัญชี และทยอยรับรู้รายได้ตลอดอายุสัญญาเช่าโดยวิธีเส้นตรง

“โดยรายได้ข้างต้นมาจากอาคารสำนักงานเกรดเอ “ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์” จำนวน 37.8 ล้านบาท และอาคารสาทร สแควร์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ โรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ของกลุ่มแผ่นดินทอง จำนวน 265.2 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจผลิตสังกะสีออกไซด์ 283.5 ล้านบาท คิดเป็น 7% ของรายได้รวม โดยมียอดขาย 4,149 เมตริกตัน”

นายวรวรรต กล่าวว่า บริษัทฯ ได้มีมติเข้าร่วมลงทุนผ่านการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด หรือ STI ผู้ให้บริการคำปรึกษา และบริหาร ควบคุมงานก่อสร้างอย่างครบวงจรจากผู้ถือหุ้นเดิมเป็นสัดส่วน 35% หรือจำนวน 350,000 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 400 ล้านบาท โดยการร่วมลงทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจได้ในอนาคต

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 8 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 963 ล้านบาท และโครงการแนวราบของกลุ่มบริษัทแผ่นดินทอง 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 8,201 ล้านบาท
 

กำลังโหลดความคิดเห็น