“แมเนอร์ สนามบินน้ำ” คอนโดฯ หรู มูลค่า 3,600 ล้านบาท นับเป็นอีกโปรดักต์ที่ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD พัฒนาออกมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่มีศักยภาพด้านกำลังซื้อสูงบนทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นการพลิกโฉมรูปแบบการใช้ชีวิตคนเมือง ที่ต้องการอาศัยอยู่นอกเขต CBD แต่สามารถเดินทางเข้าสู่เมืองได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเดินทางที่สะดวก ทั้ง “ทางบก ทางราง และทางน้ำ” ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD กล่าว
ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ MJD ยกให้เป็นทำเลพรีเมียม และทำเลอื่นๆ ที่ MJD เลือกในแต่ละโครงการของทำให้ที่ผ่านมา โปรดักต์ใหม่ๆ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นโครงการ MARQUE SUKHUMVIT ซูเปอร์ลักชัวรี่คอนโดฯ บนถนนสุขุมวิท 39 โดยโครงการ แมเนอร์ สนามบินน้ำ (MANOR SANAMBINNAM) คอนโดฯ ระดับกลาง มูลค่า 3,600 ล้านบาท ซึ่งพัฒนาออกมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการแห่งการใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบในย่านสนามบินน้ำ
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา “เมเจอร์ฯ” สะท้อนภาพการเป็นผู้โครงการไฮ-เอนด์ แม้ว่าจะมีการแตกแบรนด์ออกมา เพื่อให้เกิดความครอบคลุมกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ซึ่งเป็น Young Generation แต่ในส่วนของคุณภาพยังเกาะอยู่ในกลุ่มพรีเมียม ดังนั้น แมเนอร์ สนามบินน้ำ จึงเป็นอีก 1 โครงการที่ได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการชีวิตส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก ในราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท สำหรับโครงการ “แมเนอร์ สนามบินน้ำ” นอกจากจะมีทำเลติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติ เงียบสงบแล้ว การเดินทางยังสะดวกสบาย ทั้งทางรถยนต์ รถไฟฟ้า และทางเรือ ทำให้เข้าสู่แหล่งงานในเมืองสะดวก” ดร.สุริยา กล่าว
ดร.สุริยา กล่าวว่า นอกจากทำเลที่ตั้งโครงการแล้ว ปัจจัยบวกที่ทำให้โครงการแมเนอร์ สนามบินน้ำ ได้รับการตอบรับที่ดี คือ ความสะดวกสบายในการเดินทาง เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า 2 สาย คือสายสีม่วง และสายสีชมพู โดยอยู่ห่างจากสถานีพระนั่งเกล้า เพียง 700 เมตร และยังตั้งอยู่ติดกับกระทรวงพาณิชย์ ใกล้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และศูนย์ราชการนนทบุรี แวดล้อมด้วย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย, บิ๊กซี, โลตัส และด้านหน้าทางเข้าโครงการนั้น อยู่ติดกับ “แมเนอร์ อเวนิว” ไลฟ์สไตล์ มอลล์ ภายใต้การบริหารของ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่พรั่งพร้อมด้วยซูเปอร์มาร์เกต ธนาคาร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้า และบริการต่างๆ เพื่อรองรับความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย
ทั้งนี้ จากแผนการพัฒนาของภาครัฐในด้านต่างๆ ไปยังพื้นที่ทั้งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และที่ยังอยู่ในแผนงาน จะเห็นว่า อนาคตสนามบินน้ำ จะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญ ซึ่งรัฐได้ให้ความสำคัญการพัฒนาท่าเรือให้เชื่อมโยงการเดินทางกับรถยนต์ และรถไฟฟ้า ซึ่งเมื่อเชื่อมโยงเข้าด้วยกันทั้ง 3 โหมด คือ “ทางบก-ราง-และทางน้ำ” เข้าด้วยกันจากระบบราง โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่กำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 และจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู บริเวณสถานีศูนย์ราชการ นนทบุรี ในอนาคต ส่วนการเดินทางทางน้ำนั้น มีแผนจะสร้างท่าเรือบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า เพื่อเชื่อมระบบขนส่งทางน้ำเข้ากับทางบก (รถยนต์) และระบบรางรถไฟฟ้าสายสีม่วง บริเวณสถานีสะพานพระนั่งเกล้า ดังนั้น ศักยภาพของพื้นที่บริเวณสนามบินน้ำ จึงกลายเป็นทำเลทองแห่งใหม่ที่มีมูลค่า และดีมานด์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ปัจจุบัน โครงการแมเนอร์ สนามบินน้ำ นี้มีผู้พักอาศัยแล้ว ประมาณ 50% คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีผู้จองเพิ่มเป็น 90% แน่นอนว่า สำหรับผู้ที่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือซื้อเพื่อการลงทุน รวมถึงซื้อเก็บไว้เป็นทรัพย์สินให้บุตร-หลาน เนื่องจากราคาที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปรับสูงขึ้นทุกปี โดยสร้างมูลค่าสูงสุด 30% ในรอบ 2 ปี โดยเฉพาะในย่านฝั่งธนบุรี พระราม 3 รวมถึงสนามบินน้ำ ที่ปัจจุบัน ราคาที่ดิน ตร.ว.ละ 80,000-100,000 บาท ขณะที่ราคาของคอนโดฯ ย่านสนามบินน้ำอยู่ที่ 58,000 บาท/ตร.ม.” ดร.สุริยา กล่าว
สำหรับ “แมเนอร์ สนามบินน้ำ คอนโดมิเนียม” พัฒนาภายใต้รูปแบบด้วยสถาปัตยกรรมในสไตล์ “โคโรเนียล” บนพื้นที่โครงการ 11 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็นอาคารชุดพักอาศัย 4 อาคาร (อาคาร A และ B สูง 25 ชั้น, อาคาร C และ D สูง 35 ชั้น) หรือมีห้องชุดรวม 1,848 ยูนิต ราคาเริ่ม 1.65 ล้านบาท มีห้องชุดหลากหลายรูปแบบ ทั้ง 1 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 26.17-44.54 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 62.82-73.75 ตารางเมตร พื้นที่ส่วนกลางมากกว่า 27 รายการ ที่ชั้น 1 และชั้น 6 ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสความรื่นรมย์ และใกล้ชิดธรรมชาติ อาทิ สวนพักผ่อนชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา, สวนสวยขนาดใหญ่ระหว่างตัวอาคาร เป็นต้น