หุ้นไทยปิดครึ่งวันเช้าบวก 1.21 จุด ภาพรวมผันผวนกรอบจำกัด หลังรับรู้ผลประชุม BOJ คงวงเงิน QE ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับตลาดฯ หลังจากนี้ก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการ บจ. ซึ่งเท่าที่ออกมาก็มีหลายตัวที่ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้เกิดการเล่นเก็งกำไรตามงบฯ และหุ้นที่จ่ายปันผล
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (29 ก.ค.) ผันผวนในกรอบจำกัด ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอิงไปในทางลบ แต่ตลาดในกลุ่ม TIP ทั้งไทย และอินโดนีเซีย ยังยืนในแดนบวกได้ ภายหลังรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และวงเงินการทำ QE ที่ 80 ล้านล้านเยน ขณะที่ขยายวงเงินในโครงการซื้อกองทุน ETFs เป็น 6 ล้านล้านเยน ส่งผลให้หลายตลาดในภูมิภาคอ่อนตัวลง เนื่องจากก่อนหน้านี้ตลาดฯ คาดหวังว่า BOJ จะเพิ่มวงเงิน QE
ทั้งนี้ การย่อตัวลงของตลาดฯ มองว่าเป็นการขายทำกำไร หลังจากนี้ก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งเท่าที่ออกมาก็มีหลายตัวที่ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้เกิดการเล่นเก็งกำไรตามงบฯ และหุ้นที่จ่ายปันผล นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,525.79 จุด เพิ่มขึ้น 1.21 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.08% มูลค่าการซื้อขาย 34,361.81 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะผันผวนอิงในทางลง พร้อมให้แนวรับ 1,512 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด