xs
xsm
sm
md
lg

“สตาร์” หุ้นสีแดง ... By ชุมชนคนหุ้น...สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


การตกลงแลกหุ้นเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม หรือแบ็กดอร์ลิสติ้ง ระหว่างบริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ไทย ฟิวเจอร์  เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้งส์ จำกัด ทำให้เกิดคำถามว่า หุ้นสตาร์จะมีอนาคตสดใสขึ้นหรือไม่

เพราะหุ้นตัวนี้ ไม่ควรเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะนโยบายด้านปริมาณการเพิ่มบริษัทจดทะเบียนโดยลดหย่อนหลักเกณฑ์การเฟ้นด้านคุณภาพ สตาร์ จึงแจ้งเกิดในตลาดเอ็มเอไอได้

สตาร์ฯ ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ผลดำเนินงานขาดทุนติดต่อหลายปีก่อนเข้าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2558 เสียอีก และเมื่อเข้ามาแล้วยังขาดทุนไม่หยุดหย่อน เพียงแต่นักลงทุนยังไม่ได้รับความเสียหายจากหุ้นตัวนี้เท่าไหร่ เพราะราคาประคับประคองตัวได้ จากเสนอขายตอนเข้าตลาดฯ ที่หุ้นละ 1.50 บาท ราคายืนอยู่เหนือจองตลอด โดยเคยขึ้นไปแถว 8 บาท และลงต่ำสุดแถว 4 บาทแก่ๆ
 
ราคาที่แข็งแกร่งทั้งที่ผลดำเนินงานขาดทุนอาจเป็นเพราะมีวอร์แรนต์ออกมากระตุ้น โดยวอร์แรนต์ชุดที่ 2  จำนวนล้านหน่วยเพิ่งจะมีการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ ราคาหุ้นละ 2.90บาท เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
  
สตาร์ ขอแขวนป้ายเอสพีพักการซื้อขายหุ้นระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะอยู่ระหว่างเจรจาตกลงแลกหุ้นกับบริษัท ไทย ฟิวเจอร์  โดยก่อนขึ้นเอสพีราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 5 บาท แต่เริ่มขยับเหมือนมีสัญญาณอินไซด์ก่อนหน้า และซึ่งเมื่อเปิดการซื้อขายใหม่วันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาก็พุ่งขานรับข่าวแบ็กดอร์ลิสติ้งทันที
  
ข่าวไทยฟิวเจอร์ฯ เข้ามาแบ็กดอร์ ผลักดันราคาหุ้นสตาร์ขยับขึ้นไปประมาณ 50% โดยล่าสุดยืนอยู่แถว 7 บาทเศษ ซึ่งเกิดจากการเก็งกำไรแนวโน้มในอนาคต
  
ถ้าสตาร์ยังจมปลักกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างต่อไปก็ไม่เห็นอนาคต แต่เมื่อมีไทยฟิวเจอร์ฯ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ก็จะหันไปสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไทยฟิวเจอร์ฯ ดำเนินการอยู่
   
แต่ธุรกิจหลังงานทดแทนไม่ได้อยู่ในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว หุ้นผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ก็ไม่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนเท่าไหร่แล้ว โดยผู้บริหารบริษัทผลิตโซลาร์เซลล์ออกมาคุ้ยโม้อย่างไร  แมลงเม่าก็ไม่ยอมบินเข้ากองไฟง่ายๆ
   
การขยายโครงสร้างธุรกิจไปสู่การผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์จึงไม่ใช่คำตอบว่าอนาคตหุ้นสตาร์ฯ จะสดใส

รายการแบ็กดอร์ฯ ของไทยฟิวเจอร์มีรายละเอียดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเงื่อนไขแลกหุ้น รวมทั้งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ของสตาร์ที่ไม่ธรรมดา
 
บริษัท ไทยฟิวเจอร์ ก่อตั้งเมื่อปี 2556 โดยมี นายวัลลภ ยังตรง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 817 ล้านบาท หรือ 8.17 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 100 บาท
 
นายวัลลภ เป็น ส.ส.จังหวัดสมุทรปราการ หลายสมัย เริ่มต้นจากพรรคพลังธรรม และจบลงที่พรรคเพื่อไทย โดยอยู่ในกลุ่ม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ก๊วนเดียวกับ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ
   
ชื่อเสียงของ นายวัลลภ ดังกระฉ่อนในนามแกนนำเสื้อแดงสมุทรปราการ และเคยร่วมกับ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง พร้อมแกนนำเสื้อแดงคนอื่นนำมวลชนล้มการประชุมอาเซียน ที่พัทยา เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552
 
นายวัลลภ เป็น 1 ใน 15 แกนนำเสื้อแดงที่บุกล้มการประชุมอาเซียน และถูกศาลเมืองพัทยาพิพากษาจำคุกด 4 ปี โดยอยู่ระหว่างการอุทธรณ์
  
ถ้าหุ้นตัวนี้เกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา และอยู่ในข่ายที่จะต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือตลาดหลักทรัพย์ จะหนาวหรือไม่ เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นแกนนำเสื้อแดง

สตาร์ จะออกหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 1,750,000,111 หุ้น ราคาพาร์ 70 สตางค์ เพื่อเสนอขายเฉพาะเจาะจงให้ นายวัลลภ และผู้ถือหุ้นไทยฟิวเจอร์รายอื่นในราคาหุ้นละ 1,30 บาท ทำให้ผู้ถือหุ้นไทยฟิวเจอร์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 91% ในบริษัท สตาร์ ขณะที่สตาร์ จะถือหุ้นไทยฟิวเจอร์ทั้งหมด โดยตีราคาหุ้นระหว่าง 291-326 บาทต่อหุ้น เท่ากับหุ้นไทยฟิวแจอร์ 1 หุ้น แลกกับหุ้นสตาร์ประมาณ 214 หุ้น
 
บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด  เป็นที่ปรึกษาการเงินในการทำแบ็กดอร์ฯ และคำนวณราคาเหมาะสมหุ้นสตาร์ที่จะแลกกับหุ้นไทยฟิวเจอร์ โดยมีสูตรที่ใช้คำนวณ 6 องค์ประกอบ รวมทั้งราคาตลาดหุ้นสตาร์ด้วย
 
ประเด็นที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และนักลงทุนทั่วไปต้องสนใจคือ ที่ปรึกษาการเงินมีความเห็นว่าราคาหุ้นสตาร์ที่ซื้อขายบนกระดาน 5 บาท ก่อนเจรจาตกลงแบ็กดอร์ฯ นั้นไม่สามารถสะท้อนผลดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทได้ และอาจเป็นราคาที่สูงกว่าราคาที่แท้จริง ซึ่งคณะกรรมการบริษัทสตาร์เห็นด้วยจึงกำหนดราคาแลกหุ้นที่หุ้นละ 1.30 บาท

ถ้าหุ้นทุกตัวที่ซื้อขายในกระดานมีที่ปรึกษาทางการเงินออกมาระบุว่า หุ้นตัวไหนราคาไม่เหมาะสม หรือมีผู้บริหารบริษัทออกมาบอกว่าราคาหุ้นที่นักลงทุนเล่นกันอยู่นั้นไม่เหมาะสม และไม่สะท้อนผลดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัท คงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
  
เพราะนักลงทุนจะได้ระวัง ไม่ซื้อหุ้นที่แพงเกินจริง แต่ไม่เคยมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนแห่งใดออกมาปกป้องนักลงทุน ไม่เคยมีเจ้าของหุ้นรรายใดออกมาบอกว่าหุ้นตัวเองแพงเกินจริง มีนั่งสร้างข่าวกระตุ้นราคาจนหุ้นตัวเองวิ่งเตลิดเปิดเปิงโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ
 
หุ้นสตาร์ ที่ยืนระดับ 5-8 บาทมานาน ทั้งที่ผลดำเนินงานย่ำแย่ ผู้บริหารบริษัทไม่เคยปริปากว่าหุ้นตัวเองแพง เพิ่งจะมาเห็นดีเห็นงามต่อที่ปรึกษาทางการเงินตอนที่จะแลกหุ้นที่ถูกกดราคาต่ำกว่าตลาดมากมายเพื่อแลกกับหุ้นไทยฟิวเจอร์
  
หุ้นสตาร์ที่นักลงทุนเข้าไปเล่นกันมาเป็นแรมปีเพิ่งจะรู้กันไม่กี่วันนี่เองว่า เป็นราคาที่ไม่เหมาะสม ดั้งนั้น ราคาล่าสุดที่ยืนอยู่เหนือ 7 บาท จึงเป็นราคาซื้ออนาคตล้วนๆ
  
แต่ใครล่ะจะเป็นคนรับประกันว่า อนาคตหุ้นสตาร์จะสดใสจริง
 
สตาร์มีนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นอยู่ประมาณ 500 คน ซึ่งถือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่จำนวนผู้ถือหุ้นน้อยมาก และอาจเป็นเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่เห็นว่าไม่น่าจะยุ่งเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
  
หุ้นตัวไหนที่ไม่มั่นใจว่าดีจริง  ไม่มั่นใจว่าอนาคตจะสดใสหรือไม่ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง ยืนดูอยู่ห่างๆ ก็ได้
 
ปล่อยให้นักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่จำนวนประมาณ 500 คนตัดสินใจกันเองดีว่าจะอยู่หรือไป เพราะราคาระดับนี้ได้โอกาสชิงขายทำกำไรแล้ว     

โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
กำลังโหลดความคิดเห็น