xs
xsm
sm
md
lg

ไทยนิปปอนรับเบอร์ฯ ยื่นไฟลิ่งขายหุ้น IPO ไม่เกิน 75 ล้านหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้” ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 75 ล้านหุ้น มี บล.กสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น ซึ่งประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวน 37.50 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ อีกจำนวน 37.50 ล้านหุ้น รวมคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

ปัจจุบัน บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยเป็นทุนที่ออกจำหน่าย และเรียกชำระแล้วทั้งหมดมีจำนวน 262.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 262.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยธุรกิจของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 1.ธุรกิจผลิต และจำหน่ายถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่นภายใต้เครื่องหมายการค้า “Onetouch” ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ 2.ธุรกิจรับจ้างผลิตถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่น (OEM) ให้แก่บริษัทเอกชน และองค์กรเอกชน ทั้งใน และต่างประเทศมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และ 3.ธุรกิจงานประมูลโดยเข้าร่วมประมูลงานผลิตถุงยางอนามัยกับองค์กรภาครัฐ และองค์กรเอกชน ทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อนำไปใช้จำหน่าย และแจกจ่ายไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติ ด้วยกำลังการผลิตติดตั้ง 1,959 ล้านชิ้นต่อปี จากฐานการผลิตของโรงงาน 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง กำลังการผลิตติดตั้ง 426 ล้านชิ้น และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จังหวัดชลบุรี อีก 1,533 ล้านชิ้น เพื่อรองรับแผนดำเนินงานทางธุรกิจที่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ การผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยภายใต้เครื่องหมายการค้า Onetouch เพื่อจำหน่ายผ่านผู้จัดจำหน่าย และตัวแทนจำหน่าย เพื่อกระจายสินค้าไปยังช่องทางต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น กลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และประเทศอียิปต์ กลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิตถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่น หรือ OEM ที่บริษัทฯ ได้รับจ้างผลิตให้แก่บริษัทเอกชน และองค์กรเอกชน (NGOs) ทั้งใน และต่างประเทศกว่า 100 ประเทศ ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป แอฟริกา อเมริกา ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้รับจ้างผลิตถุงยางอนามัยให้กับ United Medical Devices ภายใต้เครื่องหมายการค้า PLAYBOY ทั่วโลก และเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และกลุ่มธุรกิจงานประมูล (Tender) โดยบริษัทฯ มีศักยภาพด้านกำลังการผลิต และมาตรฐานที่มีคุณภาพสูง ซึ่งสามารถตอบรับหลักเกณฑ์ของธุรกิจการประมูลได้ ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเติมเต็มการใช้กำลังการผลิตของบริษัทฯ หวังลดต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วย โดยได้เข้าไปประมูลงานจากองค์กรภาครัฐ และองค์กรเอกชน (NGOs) ทั้งใน และต่างประเทศ

“เราถือเป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งมากที่สุดของไทย และมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเราผลิตถุงยางอนามัย และผลิตภัณฑ์ประเภทเจลหล่อลื่น เพื่อสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงต้องการขยายตลาดถุงยางอนามัยภายใต้แบรนด์ Onetouch ไปยังตลาดใหม่ๆ ในทวีปต่างๆ และขยายฐานลูกค้าในการรับจ้างผลิตถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่น (OEM) เพิ่มเติม เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป” นายอมร กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น