UREKA มั่นใจปีนี้พลิกกำไร เชื่อผลดำเนินงาน Q2/59 ฟื้นตัว ผู้บริหารคาดหวังโครงการโมเดลไทยแลนด์ 4.0 หนุนสินค้ากลุ่มอุปกรณ์
นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการทั้งปีจะพลิกกลับมามีกำไรอย่างแน่นอน แม้ไตรมาส 1/59 จะยังมีผลขาดทุนอยู่ 23.43 ล้านบาท แต่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/59 จะปรับตัวดีขึ้น
บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้เอาไว้ที่ 450 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการผลิตเครื่องจักรสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (Design To Order) ราว 75% รายได้จากการผลิตเครื่องจักรสำหรับกลุ่มเกษตร 8% และกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก (Make To Order) 8% รายได้จากกลุ่มสินค้าเทรดดิ้ง (ซื้อมาขายไป) และงานบริการด้านวิศวกรรม 9%
ปัจจุบัน บริษัทมีบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) 180 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ภายในปีนี้ ที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯ ในปี 60 ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างยื่นเสนอราคางานใหม่มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท โดยจะทยอยรู้ผลเสนอราคาในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ และบริษัทคาดหวังจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 50% ของมูลค่าดังกล่าว
นายนรากร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดหวังจะได้รับประโยชน์จากโครงการ “โมเดลไทยแลนด์ 4.0” ที่จะมีการสนับสนุนกลุ่มอุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และอุปกรณ์อัตโนมัติที่ภาครัฐจะมีการสนับสนุนผู้ลงทุนระบบต่างๆ ดังกล่าว ขณะที่ลูกค้ากลุ่มยานยนต์ในปีนี้คงยังชะลอตัวตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่คาดว่า กว่าจะดีขึ้นคงเป็นปีหน้า
นายนรากร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรต่างประเทศที่จะเข้ามาช่วยเหลือในด้านความรู้ เทคโนโลยี หรือร่วมลงทุน เพื่อแตกไลน์ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับระบบการจัดเก็บ และเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติ (AS/RS) โดยจะพยายามให้มีความชัดเจนเกิดขึ้นภายในปีนี้
นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการทั้งปีจะพลิกกลับมามีกำไรอย่างแน่นอน แม้ไตรมาส 1/59 จะยังมีผลขาดทุนอยู่ 23.43 ล้านบาท แต่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/59 จะปรับตัวดีขึ้น
บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้เอาไว้ที่ 450 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการผลิตเครื่องจักรสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (Design To Order) ราว 75% รายได้จากการผลิตเครื่องจักรสำหรับกลุ่มเกษตร 8% และกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก (Make To Order) 8% รายได้จากกลุ่มสินค้าเทรดดิ้ง (ซื้อมาขายไป) และงานบริการด้านวิศวกรรม 9%
ปัจจุบัน บริษัทมีบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) 180 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ภายในปีนี้ ที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯ ในปี 60 ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างยื่นเสนอราคางานใหม่มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท โดยจะทยอยรู้ผลเสนอราคาในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ และบริษัทคาดหวังจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 50% ของมูลค่าดังกล่าว
นายนรากร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดหวังจะได้รับประโยชน์จากโครงการ “โมเดลไทยแลนด์ 4.0” ที่จะมีการสนับสนุนกลุ่มอุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และอุปกรณ์อัตโนมัติที่ภาครัฐจะมีการสนับสนุนผู้ลงทุนระบบต่างๆ ดังกล่าว ขณะที่ลูกค้ากลุ่มยานยนต์ในปีนี้คงยังชะลอตัวตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่คาดว่า กว่าจะดีขึ้นคงเป็นปีหน้า
นายนรากร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรต่างประเทศที่จะเข้ามาช่วยเหลือในด้านความรู้ เทคโนโลยี หรือร่วมลงทุน เพื่อแตกไลน์ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับระบบการจัดเก็บ และเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติ (AS/RS) โดยจะพยายามให้มีความชัดเจนเกิดขึ้นภายในปีนี้