xs
xsm
sm
md
lg

“โกลเบล็ก” จับตา Window Dressing ดักงบ Q2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยจับตาการทำ Window Dressing และซื้อหุ้น Big Cap ที่จ่ายเงินปันผลครึ่งปีจะช่วยพยุงดัชนีได้ แม้กังวลปัญหาเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัว หลังอังกฤษออกจาก EU คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,410-1,440 จุด แนะเก็งกำไรหุ้น Big Cap ที่จ่ายปันผลครึ่งปี ด้านราคาทองคำมีโอกาสพักตัว หลังจากขึ้นแรงมากเกินในช่วงก่อนนี้โดยมีแนวรับ 1,285-1,290 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,355-1,360 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยตอบรับปัจจัยบวกจากกรณี Fed มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ต่อไป เนื่องจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และการทำ Window Dressing ไตรมาสที่ 2/2559 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน

อีกทั้งคาดการณ์ว่า จะเห็นการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ในเร็วๆ นี้ ภายหลังกระทรวงคมนาคมเร่งแผน Action Plan AOT รวมถึงโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ อาทิ งานก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ เฟสสอง การเปิดประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง และการประมูลรถไฟทางคู่

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 59 (ตุลาคม 2558-พฤษภาคม 2559) มีการเบิกจ่ายได้กว่า 1.9 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 8.4% ซึ่งเชื่อว่าจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยลบจากคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวในปีหน้าจากผลกระทบ Brexit เนื่องจากยุโรปเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา และจีน ขณะที่ S&P และ Fitch rating บริษัทจัดอันดับยักษ์ใหญ่ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถืออังกฤษลง อีกทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลงล่าสุดอยู่ที่ 46.7 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากความกังวลผลกระทบอังกฤษแยกตัวออกจาก EU เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา เช่น การคาดการณ์งบการเงินงวดไตรมาส 2/2559 ของหุ้นกลุ่มธนาคาร และในวันนี้ (29 มิ.ย.) สหรัฐฯ จะเปิดเผยสต๊อกน้ำมันประจำสัปดาห์ และธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยรายงานการวิเคราะห์ และประเมินเงินทุนแบบเบ็ดเสร็จ (CCAR) หรือผลการทดสอบภาวะวิกฤตส่วนที่ 2 และในวันที่ 30 มิถุนายน สหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ประจำเดือน มิ.ย. ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) จะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภค และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมิถุนายน

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากผลกระทบอังกฤษออกจาก EU ยังคงเป็นปัจจัยลบกดดันต่อภาวะการลงทุนในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าแรงซื้อในการทำ Window Dressing และซื้อหุ้น Big Cap ที่จ่ายเงินปันผลครึ่งปี จะช่วยพยุงดัชนีไว้ได้ ดังนั้น คาดว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,450-1,460 จุด

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy โดยเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยบวกรองรับ เช่น หุ้น BANPU ราคาถ่านหินทำ High ในรอบ 1 ปี ล่าสุด 53 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน รองลงมาได้แก่หุ้นกลุ่มค้าปลีก (Domestic Play) ที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังซื้อภายในประเทศ รวมทั้งหุ้นกลุ่มรับเหมาที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง ในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ และหุ้นที่ปันผลครึ่งปีเด่น ได้แก่ INTUCH ADVANC KKP TCAP SCC QH LH PS และ LPN

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อทองคำ เพื่อลดความเสี่ยงหลังสหราชอาณาจักรลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 มิ.ย.) ซึ่งได้สร้างความกังวลว่า อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่บรรดาผู้นำ EU จะจัดการประชุมสุดยอดในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ เพื่อเตรียมการสำหรับการแยกตัวออกไปของอังกฤษ รวมถึงความกังวลว่า ประเทศอื่นใน EU อาทิ ฝรั่งเศส เดนมาร์ก โปแลนด์ และฮังการี อาจต้องการออกจาก EU เช่นเดียวกับสหราชอาณาจักร

นอกจากนี้ ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ เริ่มหาแนวทางการป้องกันความเสี่ยงจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากผลของ Brexit ขณะที่ล่าสุด สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ได้พากันลดอันดับเครดิตของอังกฤษ โดย S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลง 2 ขั้น สู่ระดับ “AA” จากระดับ “AAA” พร้อมกับเตือนว่า อังกฤษอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือต่อไป ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่ระดับ “AA” จากระดับ “AA+” พร้อมเตือนว่า อังกฤษอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอีก
 
อย่างไรก็ตาม ราคาทองเริ่มทรงตัวหลังปรับขึ้นแรง เนื่องจากแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร และปอนด์ แต่การพักตัวก็อยู่ในกรอบแคบเท่านั้น แนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค เริ่มพักตัวออกข้าง และเกิดสัญญาณลบแท่งเทียน Shooting Star ที่มีช่วงห่างเส้น 5 วัน และอยู่ใกล้เขตขึ้นแรงมากเกินไป และค่าสัญญาณ RSI เกิดภาวะ Bearish Divergence ทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวลง แต่จะลงไม่มาก เนื่องจากมีแนวรับสัญญาณ Golden Cross รองรับอยู่ ดังนั้น แนวโน้มราคาทองคำมีโอกาสพักตัว ลดภาวะขึ้นแรงมากเกินไปก่อนปรับขึ้นรอบใหม่ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1,285-1,290 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้านอยู่ที่ 1,355-1,360 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์


กำลังโหลดความคิดเห็น