“คลัง” เผยความคืบหน้าเก็บภาษีน้ำหวาน คาดได้ข้อสรุปในเดือน มิ.ย.นี้ หรืออย่างช้าต้นเดือนหน้า ลั่นต้องพิจารณาเรื่องความเป็นธรรม โดยแนวทางการเก็บภาษีน้ำหวานไม่ควรเก็บเพิ่มขึ้นกว่าที่เก็บอยู่เดิมปัจจุบัน และจูงใจให้ผู้ประกอบการน้ำหวานลดส่วนประกอบน้ำตาลให้ลดลง โดยจะเสียภาษีอัตราต่ำกว่าเดิม
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางการเก็บภาษีน้ำหวาน โดยมี นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นประธาน มีผู้บริหารจากกรมสรรพสามิต และตัวแทนจากภาคเอกชน ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการประชุมกันไปบ้างแล้ว และคาดว่าประชุมอีก 1-2 ครั้งก็จะสามารถสรุปได้ว่าจะเก็บหรือไม่เก็บภาษีน้ำหวาน
ทั้งนี้ หากคณะทำงานสรุปว่าจะเก็บภาษีก็ต้องพิจารณาเรื่องความเป็นธรรมในการเสียภาษี เพราะผู้ประกอบการน้ำหวานอาจจะโต้แย้งว่าทำไมไม่เก็บขนมหวาน ทองหยิบ ฝอยทอง โรตี ซึ่งมีส่วนผสมน้ำตาลมากกว่าน้ำหวาน มีผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่า ซึ่งกระทรวงการคลังไม่มีนโยบายเก็บภาษีขนมหวานอยู่แล้ว เพราะจะกระทบต่อผู้ประกอบการโอทอป
อย่างไรก็ตาม แนวทางการเก็บภาษีน้ำหวานไม่ควรเก็บเพิ่มขึ้นกว่าที่เก็บอยู่เดิมในปัจจุบัน และจูงใจให้ผู้ประกอบการน้ำหวานลดส่วนประกอบน้ำตาลให้ลดลง โดยจะเสียภาษีอัตราต่ำกว่าเดิม เหมือนกับการเก็บภาษีน้ำมัน หากน้ำมันไหนปล่อยมลพิษมากเสียภาษีมาก น้ำมันไหนปล่อยมลพิษน้อยก็เสียภาษีน้อย
“แนวทางการเก็บภาษีน้ำหวานดีที่สุด คือ ไม่เก็บภาษีเพิ่ม แต่ควรลดลงเพื่อจูงใจให้มีการผลิตลดส่วนผสมน้ำตาลลง คลังไม่อยากเก็บภาษีแล้วไม่ทำให้เกิดความเป็นธรรม และกระทบต่อขนมหวาน ซึ่งเป็นสินค้าโอทอปที่รัฐบาลส่งเสริม” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า หากคณะทำงานสรุปว่าไม่ควรเก็บภาษีน้ำหวานก็ต้องมีแนวทางอื่นเพื่อให้สอดคล้องข้อเสนอของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. โดยแนวทางหนึ่งเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. กำหนดส่วนผสมน้ำตาลในน้ำหวานให้ลดลง ซึ่งสามารถทำได้ เพราะ อย.เป็นผู้มีอำนาจกำกับดูแลด้านนี้โดยตรง
ทั้งนี้ คณะทำงานจะสรุปผลการเก็บภาษีน้ำหวานได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ หรือต้นเดือนหน้า หลังจากนั้นกระทรวงการคลังก็จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเห็นชอบต่อไป