ธ.กสิกรไทย คาดจีดีพีช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะโตต่ำกว่า 3% โดยมีสาเหตุจากภัยแล้ง-ส่งออก เชื่ออังกฤษจะไม่ออกจากอียู เตือนระวังบาทแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน บมจ.ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ยังขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 3 โดยได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง และการส่งออกที่ขยายตัวต่ำ เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่เติบโตน้อยลง และการค้าโลกที่ยังซบเซา แม้ว่าการลงทุน และการใช้จ่ายของภาครัฐจะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 11.5 แต่ก็มีสัดส่วนต่อจีดีพีต่ำเมื่อเทียบกับการส่งออกซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 40 ของจีดีพี โดยประเมินการส่งออกปีนี้ไม่ขยายตัวเลย หรือเท่ากับ 0 ทำให้จีดีพีทั้งปียังคงประมาณการเดิมที่ร้อยละ 3
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ คือ ผลการลงประชามติของสหราชอาณาจักรว่าจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือไม่ ซึ่งเป็นความเสี่ยงในระยะสั้นที่เพิ่มขึ้นหลังจากโพลตัวเลขคนที่อยากออกจากอียูปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 55 ต่อ 45 ทำให้ตลาดเงิน และตลาดหุ้นมีความผันผวนเพราะมีการขายสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากเกรงผลกระทบหากสหราชอาณาจักรออกจากอียูจริง เนื่องจากเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรมีขนาดค่อนข้างใหญ่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า สหราชอาณาจักรไม่น่าจะออกจากอียู เพราะอาจมีหลายปัจจัยที่จะกระทบ ทั้งภัยก่อการร้าย และอาจเกิดสุญญากาศทางการเมืองที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษอาจจะต้องแสดงสปิริตลาออก
หากผลการลงประชามติออกมาว่าสหราชอาณาจักรออกจากยุโรป ดังนั้น การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนระยะนี้จะยังคงมีความผันผวน โดยประเมินเงินบาทในสิ้นเดือนนี้จะอยู่ที่ 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนไตรมาส 3 อ่อนค่าลงอยู่ที่ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่าต่อเนื่องอยู่ที่ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงสิ้นปี ส่วนหนึ่งเพราะจะได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้จะมีเงินทุนไหลออกจากไทยเพิ่ม เพื่อกลับไปลงทุนสหรัฐฯ เพราะส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างไทย และสหรัฐฯ น้อยลงแล้ว