xs
xsm
sm
md
lg

เผยโบรกฯ ที่มีฐานลูกค้าต่างชาติส่งออเดอร์ทะลักก่อนปิดตลาดดันวอลุ่มทะลุ 6 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หุ้นปิดบวก 0.16 จุด ภาพรวมแกว่งในกรอบแคบ คาดนักลงทุนรอติดตามตัวเลข ศก.สหรัฐฯ ขณะที่โบรกฯ พบวอลุ่มทะลักก่อนปิดตลาด โดยมีการเพิ่มเข้ามามากอย่างผิดปกติจนเห็นได้ชัด และพบว่ามาจากโบรกเกอร์ที่มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นต่างชาติส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามามากช่วงก่อนปิดตลาดไม่กี่นาที จนผลักดันให้วอลุ่มรวมของตลาดฯ สูงไปถึงกว่า 6 หมื่นล้าบาท

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ (31 พ.ค.) ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบทั้งแดนบวก และแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนต่างรอดูความชัดเจนของโอกาสในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในเดือนมิถุนายน จะมีโอกาสปรับขึ้นหรือไม่

โดยจะต้องพิจารณา 2 ปัจจัยในสหรัฐฯ ได้แก่ การประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) และการประกาศตัวเลขการว่างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (3 มิ.ย.) นอกจากนี้ ตลาดยังรอดูปัจจัยของจีนประกอบการลงทุน คือ การประกาศตัวเลข PMI ของจีนในวันพรุ่งนี้

“ตอนนี้ตลาดรอดูปัจจัย 2 อย่าง คือ ตัวเลข PMI ของสหรัฐฯ และตัวเลขการว่างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่เป็นองค์ประกอบไปสู่การพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ภาพยังไม่ชัด ทำให้ดัชนีในช่วงนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ซึ่งรวมไปถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียด้วย”

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบเช่นเดียวกับวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนต่างรอดูปัจจัยที่ส่งผลไปสู่การพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ โดยต้องติดตาม ได้แก่ การประกาศตัวเลข PMI ของสหรัฐฯ และจีน

ช่วงนี้ภาพของตลาดหุ้นน่าจะแกว่งในกรอบแคบๆ อยู่ แต่ถ้าปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ออกมาชัดเจนแล้ว และตัวเลขที่เป็นองค์ประกอบนั้นออกมาดีก็มีแนวโน้มที่ตลาดจะเชื่อว่า เฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อตลาด พร้อมให้แนวต้าน 1,433 จุด แนวรับ 1,422 จุด

ด้าน นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า มูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) ช่วงท้ายตลาดวันนี้เพิ่มเข้ามามากอย่างผิดปกติจนเห็นได้ชัด โดยพบว่า มาจากโบรกเกอร์ที่มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ เช่น UBS TISCO CLSA ส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามามากช่วงก่อนปิดตลาดไม่กี่นาที จนผลักดันให้วอลุ่มรวมของตลาดฯ สูงไปถึงกว่า 6 หมื่นล้าบาท ซึ่งขณะนี้แรงซื้อขายของต่างชาติส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย และในช่วงนี้ฝั่งต่างชาติเป็นฝั่งซื้อมากกว่าขาย

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์รายหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า วอลุ่มช่วงท้ายตลาดเข้ามาอย่างผิดปกติในหุ้นบางตัว เช่น MINT ROBINS TMB EGCO เป็นต้น โดยบางตัวมีวอลุ่มเข้ามาก่อนปิดตลาดสูงถึง 50% ของวอลุ่มรวมในหุ้นตัวนั้นๆ ทั้งวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น