“พีทีจี เอ็นเนอยี” คาดปริมาณขายน้ำมันไตรมาส 2 ปี 2559 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ เร่งเพิ่มสถานีบริการ ดึงฟาสต์ฟูดแบรนด์ดัง SMEs คนไทย สร้างสีสันดึงดูดลูกค้า
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ปริมาณการขายน้ำมันของบริษัทฯ จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากในไตรมาสแรกของปี 2559 ที่มีปริมาณการขายน้ำมันอยู่ที่ 671 ล้านลิตร ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2558 เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ การขนส่ง และการเดินทางยังคงเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2
ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเร่งดำเนินการขยายสถานีบริการน้ำมันให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และการเปิดร้านอาหารแบรนด์ดังอย่าง “KFC” ในสถานีบริการน้ำมัน PT ซึ่งได้เปิดสาขาแรกไปแล้วที่สาขาถนนกาญจนาภิเษก และมีแผนเปิดอีก 3 สถานี รวมถึงสนับสนุน SMEs คนไทยให้เข้ามาดำเนินกิจการในสถานีบริการ ช่วยส่งเสริมให้รายได้ของร้านสะดวกซื้อ “Max Mart” และร้านกาแฟ “พันธุ์ไทย” เติบโตขึ้น ส่วนโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ในปัจจุบันอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้างคลัง และเตรียมการในส่วนของฐานรากในแต่ละกระบวนการ รวมถึงเริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงาน ซึ่งคาดว่าทั้งโครงการจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2560
“จากการที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันก็ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง Same Store Sales ก็ยังขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการขยายสถานีบริการให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ และที่สำคัญธุรกิจ non-oil ก็เริ่มมีสีสันมากขึ้น เราสนับสนุน SMEs คนไทยให้เข้ามาดำเนินกิจการในสถานีบริการ โดยให้เช่าที่ในสถานีบริการฟรี 6 เดือนแรก นอกจากนี้ ก็มีเปิดสาขาที่มี KFC แล้วที่สาขาแรกที่สาขากาญจนาภิเษก และมีแผนเปิดอีก 3 สถานี ซึ่งก็ทำให้สถานีบริการคึกคักขึ้น ทำให้รายได้ของมินิมาร์ท และกาแฟพันธุ์ไทยก็เติบโตขึ้นอีกด้วย” นายพิทักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทฯ ประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 79.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 165 ล้านบาท และมีรายได้รวม 13,622 ล้านบาท โดยที่กำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตขึ้น เนื่องจากการลดลงของต้นทุนน้ำมันสำเร็จรูป และต้นทุนขนส่งประกอบกับการมีสถานีบริการ รถบรรทุกน้ำมัน และคลังน้ำมันเป็นของตนเอง ทำให้บริษัทฯ มีความคล่องตัว และสามารถบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนการขายและการบริการในไตรมาส 1/2559 เท่ากับ 12,297 ล้านบาท ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2559 สูงถึง 1,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน