หุ้นปิดครึ่งวันเช้าพุ่ง 11.56 จุด คาดตอบรับ Sentiment จากนอกประเทศ และต่างชาติกลับมาซื้อเป็นปัจจัยหนุน ขณะที่ความชัดเจนเฟดปรับขึ้นอัตรา ดบ.ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านั้นส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งก็ไม่น่าจะหนุนให้ Flow ไหลเข้ามา และตลาดฯ ก็ได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว ขณะที่วอลุ่มเทรดไม่หนาแน่นตามดัชนีฯ ที่ขึ้นไป ดังนั้น จีงต้องระวังแรงขาย และระวังการย่อตัวระหว่างทาง
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (30 พ.ค.) ปรับตัวขึ้นรับ Sentiment จากภายนอกประเทศ และการกลับมาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 พ.ค.) ที่ค่อนข้างดี ทั้งในหุ้น และอนุพันธ์ แต่การปรับตัวขึ้นยังไม่ได้สะท้อนภาพที่แข็งแกร่ง คงต้องรอภาพชัดเจนจาก Flow ต่างชาติไหลเข้ามาก่อน
ส่วนการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หนุนเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านั้น ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งก็ไม่น่าจะหนุนให้ Flow ไหลเข้ามา และตลาดฯ ก็ได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว ขณะที่วอลุ่มเทรดไม่หนาแน่นตามดัชนีฯ ที่ขึ้นไป ดังนั้น จึงต้องระวังแรงขาย และระวังการย่อตัวระหว่างทาง
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกตามตลาดสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วก็อาจทำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,424.23 จุด เพิ่มขึ้น 11.56 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.82% มูลค่าการซื้อขาย 22,100.41 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะผันผวนในแดนบวก และมีโอกาสที่จะดัชนีฯ จะย่อตัวในระหว่างทาง พร้อมให้แนวรับ 1,415 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430 จุด