เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 30 พ.ค.นี้ ตามมติผู้ถือหุ้นให้บริษัทออกวอร์แรนต์ ACAP-W1 จำนวน 62.50 ล้านหน่วยให้ผู้ถือหุ้นเดิมฟรี ในอัตรา 4 หุ้นวอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ ผู้บริหารเผยเงินที่ได้นำไปใช้ในการปล่อยสินเชื่อ ส่วนราคาหุ้นที่คึกคักในช่วงนี้ มองว่าเป็นปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงานสามารถทำกำไรได้ 3 ไตรมาสติดต่อกัน พร้อมเดินหน้าปล่อยสินเชื่อต่อเนื่อง ดันทั้งปีพอร์ตสินเชื่อแตะ 2,000 ล้านบาท
น.ส.สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (ACAP-W1) จำนวน 62.50 ล้านหน่วย โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ (XW) ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ (Record date) วันที่ 1 มิถุนายน 2559 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์วันที่ 2 มิถุนายน 2559
สำหรับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ ACAP-W1 จำนวน 62.5 ล้านหน่วย เป็นการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือในอัตราการจัดสรรที่ 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ACAP-W1 มีอายุ 2 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้น และราคาการใช้สิทธิ 2 บาทต่อหุ้น โดยเงินที่ได้นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทางธุรกิจด้านการปล่อยสินเชื่อต่อไป
โดยในไตรมาส 2/2559 บริษัทฯ ยังเน้นมีการให้บริการสินเชื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยระดับกลาง และขนาดใหญ่ต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2559 ได้ปล่อยสินเชื่อมากกว่า 1,000 ล้านบาท จากการตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อทั้งปีที่ระดับ 2,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อปล่อยสินเชื่ออีกหลายราย ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงของราคาหุ้นที่ปรับตัวคึกคักของราคาหุ้นบริษัทฯ ในช่วงนี้ มองว่าเป็นการตอบรับกับปัจจัยบวกจากผลประกอบการในไตรมาส 1/2559 ที่ออกมาพลิกเป็นกำไรถึง 3 ไตรมาสติดต่อกัน และมีแนวโน้มทำกำไรโตต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนความตั้งใจการดำเนินธุรกิจของคณะผู้บริหารชุดปัจจุบัน
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2559 มีรายได้รวม 65.686 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16.706 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.708 ล้านบาท หรือคิดเป็น 243.67% เมื่อเทียบกับผลดำเนินงานช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนอยู่ที่ 24 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการรุกปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการรายใหญ่เพิ่มขึ้น
